ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 18 สิงหาคม …
ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 18 สิงหาคม 2566
ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 18 สิงหาคม 2566
การเมือง/มั่นคง
ประธานรัฐสภา หารือแนวทางการจัดสรรเวลาในการประชุมเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เชิญตัวแทนคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) และตัวแทนพรรคการเมือง มาประชุมร่วมกันเพื่อหารือแนวทางการประชุมรัฐสภา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ เพื่อหารือแนวทางการจัดสรรเวลาในการประชุมรัฐสภา โดยมีวาระสำคัญ 2 เรื่องคือ ญัตติด่วนด้วยวาจา ตามข้อบังคับการประชุม ข้อ 32 (1) เรื่องขอให้รัฐสภามีมติทบทวนการพิจรณามติ เมื่อวันที่ 19 กรกฏาคมที่ผ่านมา ว่า การเสนอชื่อบุคคลเดิมให้รัฐสภาเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีสามารถเสนอบุคคลเดิมซ้ำ ซึ่งนายรังสิมันต์ โรม สส. พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ รวมถึงวาระพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ต้องพิจารณาว่าหลังจากที่เสนอชื่อบุคคลต่อรัฐสภาแล้ว จะเปิดให้มีการอภิปรายประเด็นคุณสมบัติและการแสดงวิสัยทัศน์ของบุคคลซึ่งได้รับการเสนอชื่อ
สำหรับกรอบเวลาการอภิปรายเบื้องต้น จัดสรรเวลาให้ สว. จำนวน 1 ชั่วโมง สส. จำนวน 3 ชั่วโมง โดยให้ตัวแทนพรรคการเมือง พรรคละ 1 คน เป็นผู้อภิปราย ทั้งนี้ การอภิปรายดังกล่าวต้องยุติในเวลา 15.00 น. เพื่อให้การลงมติว่าจะเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบเดินหน้าได้ โดยคาดว่าการลงมติจะแล้วเสร็จในเวลา 17.30 น.
กกต.ยืนยันทำหน้าที่ถูกต้อง แต่อาจไม่ถูกใจ แต่พัฒนาการทางการเมืองไทยปัจจุบันถือว่ามีสัญญาณที่ดี
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวในการอภิปรายออนไลน์ หลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) รุ่นที่ 13 ในหัวข้อ “กกต. มีไว้ทำไม” ณ ห้องประชุม 704 ชั้น 7 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง อาคารรัฐประศาสนภักดี เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
นายแสวง ระบุว่า หน้าที่ของ กกต. แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ การทำให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม การให้ความรู้เรื่องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการพัฒนาการเมือง แต่ กกต. ไม่สามารถทำทุกอย่างให้สำเร็จได้โดยลำพัง ทุกภาคส่วนจึงต้องมีส่วนร่วมช่วยกัน โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเลือกตั้งด้วย ซึ่ง กกต. พยายามทำทุกอย่างให้ถูกต้อง แต่อาจไม่ถูกใจคนบางกลุ่ม ทำให้เกิดข้อกังขาใจการทำงานของ กกต. โดยเฉพาะในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ผ่านมา
นายแสวง กล่าวว่า ในการเลือกตั้งปี 2562 กับ 2566 จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกับผู้มาใช้สิทธิ์ใกล้เคียงกันมาก ขณะที่คุณภาพของคะแนนในประเทศไทยมีปัญหาอย่างมาก เนื่องจากยังมีการซื้อสิทธิ์เสียงอย่างแพร่หลาย แต่ปัจจุบันประชาชนมีพัฒนาการในการเลือกตั้งดีขึ้น ที่พิจารณาจากนโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเมืองไทย
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการบินไทยพลิกฟื้นกำไรสูงสุดในรอบ 20 ปี เร่งออกจากแผนฟื้นฟูก่อนกำหนด
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเยี่ยมชมกิจการพร้อมรับฟังรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมคณะทำงานแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทยฯ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรัฐบาลที่ได้ร่วมกันอย่างเต็มความสามารถในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ จนทำให้การดำเนินการตามแผนฟื้นฟูประสบความสำเร็จ ซึ่งขณะนี้ ณ เดือนสิงหาคม สถานะกระแสเงินสดมี 57,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ขององค์กร โดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทยฯ มาโดยตลอด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังมั่นใจว่า การจ่ายเงินคืนเจ้าหนี้ทั้งในและต่างประเทศ จะเป็นไปตามแผนสร้างความเชื่อมั่นกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สอบถามถึงแผนระยะยาวในการปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติการบินและการปรับปรุงเส้นทางบิน ทั้งเส้นทางการบินระยะสั้นและระยะไกล ให้สอดคล้องกับความต้องการการเดินทางของผู้ใช้บริการที่ปัจจุบันนิยมบินแบบต่อเครื่อง หรือ Transit โดยขอให้บริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพทั้งการบินระยะทางสั้นและการบินระยะทางไกลและเพื่อให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นสำหรับนำมาพัฒนาองค์กรให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันเส้นทางการบินได้เปิดบริการใกล้เคียงเส้นทางก่อนการฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งได้มีการเตรียมความพร้อมการให้บริการภาคพื้นไว้รองรับการให้บริการเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทการบินไทยฯ ได้ดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาและข้อจำกัดระยะสั้นจนผ่านพ้นวิกฤตและสามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถทำกำไร 4 ไตรมาสต่อเนื่อง ล่าสุดในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 บริษัท การบินไทยฯ มีกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดในรอบ 20 ปี คาดว่าจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูฯได้ ในไตรมาส 4 ของปี 2567 ซึ่งเร็วกว่าที่แผนฟื้นฟูกิจการกำหนด
เกษตรกรรม/สิ่งแวดล้อม
กรมประมงปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา 91 พรรษา ณ ท่าชัยยุทธ ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้าราชการกรมประมง ข้าราชการส่วนท้องถิ่น กลุ่มองค์กร นักเรียน นักศึกษาและประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่องานด้านการประมงตลอดมา อาทิ โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ โครงการฟื้นฟูทรัพยากรพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย ฯลฯ และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น กรมประมง จึงร่วมกับส่วนราชการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัด “โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา 12 สิงหาคม 2566” ขึ้น โดยปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา 1,320,000 ตัว และยังปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ อื่นๆ ที่มีความเหมาะสมในพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศอีก 16,400,000 ตัว รวมจำนวนสัตว์น้ำที่ปล่อยทั้งสิ้น 17,720,000 ตัว เพื่อถวายความจงรักภักดี และถวายเป็นพระราชกุศล รวมทั้งเป็นการเพิ่มปริมาณพันธุ์สัตว์น้ำและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำในธรรมชาติให้คงความอุดมสมบูรณ์สืบไป
สำหรับพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมประมง ได้ปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามลงในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้ในปัจจุบันกุ้งก้ามกรามในธรรมชาติเพิ่มปริมาณมากขึ้น ทำให้ราษฎรที่อาศัยในชุมชนที่ตั้งอยู่ตลอดแนวสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อาศัยทรัพยากรสัตว์น้ำเพื่อการยังชีพและสร้างรายได้ โดยเป็นโครงการในพระราชดำริที่ชาวบ้านแถบนั้น เรียกกุ้งก้ามกรามที่จับได้จากแม่น้ำเจ้าพระยาว่า “กุ้งสมเด็จ”
สังคม
อย. แนะต้องการรับบริการเสริมความงาม ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนเพื่อความปลอดภัย
เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวผู้รับบริการหน้าพังหลังเข้าคอร์สทำหน้า Pico Laser จากคลินิกและทราบภายหลังว่าผู้ให้บริการไม่ใช่แพทย์ประจำคลินิก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ชี้แจงว่า เครื่อง Pico Laser เป็นเครื่อง Laser ที่ทำงานโดยส่งคลื่นพลังงานความถี่สูง 1 ต่อล้านล้านวินาที ไปยังผิวหนังเป้าหมายที่มีปัญหา เพื่อลดเม็ดสีในบริเวณดังกล่าว มีคุณสมบัติเจาะจงกับเมลานินและเม็ดสีที่เข้มได้ดี โดยจะส่งการสั่นสะเทือนต่อผิวหนังอย่างรุนแรง ทำให้เม็ดสีหรืออนุภาคของผิวแตกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งเครื่องดังกล่าวมักใช้ในการรักษาจุดด่างดำ กระฝ้า เม็ดสีเข้มๆ ใต้ชั้นผิวหนัง หรือใช้ในการลบรอยสัก รวมถึงกระตุ้นคอลาเจนบนชั้นผิวหนัง แต่การใช้เครื่องดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น ผิวแห้ง แดง จากการโดนเลเซอร์ รอยคล้ำหลังทำเลเซอร์ ผื่น บวม รวมถึงรอยตกสะเก็ดหลังการใช้
เครื่อง Pico Laser จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าต้องแจ้งรายการละเอียดกับ อย. ก่อน จึงจะสามารถผลิต หรือนำเข้าได้ โดยต้องใช้ในสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตและต้องใช้โดยผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข หรืออยู่ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ หรือสาธารณสุขเท่านั้น
สำหรับผู้รับบริการควรตรวจสอบก่อนเข้ารับบริการว่า เป็นสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตจริง โดยผู้บริโภคสามารถตรวจสอบเครื่อง Pico Laser ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ที่เว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว