ข่าวสารกรุงเทพฯ

ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 26 กันยายน …



ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 26 กันยายน 2566

ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 26 กันยายน 2566

ประชุมคณะรัฐมนตรี

ครม.เห็นชอบ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันนวมินทรมหาราช

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ กำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 13 ตุลาคมว่า “วันนวมินทรมหาราช”ตามที่ขอพระราชทานพระมหากรุณา สืบเนื่องจากสำนักนายกรัฐมนตรีขอเสนอชื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ว่า “วันนวมินทรมหาราช” ในวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ดังนั้นจึงกำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันหยุดราชการประจำปีเนื่องจากเป็นวันสำคัญของชาติไทย

คณะรัฐมนตรี เห็นชอบมาตรการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี และผู้ประกอบการ SME 1 ปี

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในวันนี้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการพักหนี้เกษตรกรระยะเวลา 3 ปีเรียบร้อยแล้ว โดยในรายละเอียดจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการที่กระทรวงการคลังในช่วงบ่ายวันนี้ ทั้งในส่วนของวงเงินโครงการ จำนวนเกษตรกรและเงื่อนไขในการพักหนี้ต่างๆ

ขณะที่นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การพักหนี้ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์นั้น จะเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบพักหนี้เป็นระยะเวลา 1 ปี แต่ในรายละเอียดนั้นจะต้องหารือกับกระทรวงการคลังอีกครั้งหนึ่ง

ครม.เห็นชอบแต่งตั้งนายคารม พลพรกลาง เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญหลายกระทรวง

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบแต่งตั้งหลายตำแหน่ง โดยให้นายคารม พลพรกลาง ดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงเห็นชอบนางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และให้นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค ผู้ตรวจราชการกระทรวงมาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและนางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อเวลาการดำรงตำแหน่ง นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ออกไปอีก 1 ปี จะครบเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 และนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง จะครบเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคม 2567

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อเวลาการดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่ออีกหนึ่งปีตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 พร้อมเห็นชอบการรับโอนพันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม เป็นเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ แทนพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร ที่จะเกษียณอายุราชการ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายฐนัตถ์ สุวรรณานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

นายกรัฐมนตรีเร่งรัดกระทรวงคมนาคม ขยายสนามบินภูเก็ตรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่ม

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลังจากเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต โดยย้ำเน้นสิ่งใดทำได้ทำก่อน หรือ Quick Win คือเรื่องการท่องเที่ยว โดยจะเป็นเรื่องเดียวกับวีซ่าฟรี คือ ต้องใช้จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเกตเวย์ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งความจุของสนามบิน ที่จังหวัดภูเก็ต หากต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้ 18 ล้านคน จากเดิมที่เดินทางและรองรับได้ 15 ล้านคน และจะมีคนที่เพิ่มกว่า 5 ล้านคน จึงเร่งให้กระทรวงคมนาคมรีบทำแผน แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ ขอดูแผนให้จังหวัดภูเก็ต รองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มอีก 5 ล้าน 5 แสนคน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสะดวกสบาย รวมทั้งการคมนาคมขนส่งจากจังหวัดภูเก็ตไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ซึ่งกระทรวงคมนาคม จะรีบเสนอแผนงานมาโดยด่วน โดยมีทั้งหมด 7 โครงการ

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อตรวจราชการต้องลดคณะทีมงานลง เพื่อไม่รบกวนประชาชนพร้อมกำชับรัฐมนตรีแต่ละคนที่ตามไปไม่ต้องให้มาต้อนรับมาก ขอมาให้น้อยคน ซึ่งเป็นนโยบายส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด

การเมือง/มั่นคง

นายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบภารกิจหนัก แต่ยังไม่ลืมพรรค ยืนยันยังลงพื้นที่ต่อเนื่อง เชื่อมต่อพรรคและประชาชนให้มากขึ้น

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและรองประธานคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ รวมถึงรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ร่วมประชุม สส. พรรค

นายกรัฐมนตรี กล่าวกับ สส. พรรคว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็พยายามบริหารประเทศให้ดีที่สุด พร้อมขอบคุณ สส. ที่เป็นกำลังใจและชี้แจงในสภาฯแทนคณะรัฐมนตรี ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่เรามาด้วยความตั้งใจจริง มีความปรารถนาดีกับประเทศชาติและผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งตั้งแต่ที่ไปอยู่ทำเนียบรัฐบาล ได้ไปต่างประเทศร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ถือเป็นภารกิจที่หนัก แต่ไม่ได้ลืมพรรค โดยจากนี้จะเข้าพรรคทุกวันอังคารเพื่อพูดคุยกับ สส.ของพรรคและพยายามจะลงพื้นที่ให้บ่อยขึ้น โดยจะประสานกับรัฐมนตรีทุกคนเชื่อมต่อกับพรรคและประชาชนให้มากยิ่งขึ้น

ส่วนการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ คิดว่าน่าจะเป็นมิติใหม่ของพรรค ยืนยันเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชน พร้อมยินดีรับฟังข้อเสนอแนะ เนื่องจากวันนี้มาที่พรรคก็ถือเป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่ง ทราบว่าทุกคนมีเรื่องอยากพูดคุย อยากส่งสารความทุกข์สุขของประชาชน จึงอยากมารับฟังจากคนที่ใกล้ชิดประชาชนจริงๆ เพื่อจะได้ไปบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน

ด้านนางสาวแพทองธาร กล่าวชื่นชมทุกคนที่เข้าไปทำงานในรัฐบาลอย่างหนัก ซึ่งมีหัวหน้ารัฐบาลคนแรกที่ทำงานอย่างหนักและเห็นผลงานของ สส. และรัฐมนตรี ที่ตั้งใจทำงานจริงๆ จึงรู้สึกภูมิใจ แต่ยอมรับว่ารู้สึกเหงาเวลาเข้าพรรค เนื่องจากทุกคนไปอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ก็เป็นความเหงาที่มีความสุขและพร้อมที่จะทำเพื่อพรรคแข็งแรงขึ้น ให้พรรคเข้มแข็งไปด้วยในทุกมิติและหลังจากนี้เราจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้อย่างไร จะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าใจถึงความตั้งใจและความหวังดีของพรรค ซึ่งเป็นส่วนสำคัญและตนเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนพรรคทุกเรื่อง

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่แต่งตั้งให้มารับตำแหน่งนี้ ซึ่งขณะนี้สภายังไม่มีกฎหมายจาก ครม. จึงอยากไปจัดหมวดหมู่กฎหมายและทีมกฎหมายของพรรคได้ประชุมวันนี้ก็จะเสนอกฎหมายตามระบบระเบียบที่ได้ศึกษาไว้ เพื่อไม่ให้มีช่องว่างในการพิจารณา พร้อมยืนยันว่า จะดูสภาฯแทนนายกรัฐมนตรี ขอให้ทำงานอย่างสบายใจ หากมีเวลาก็มาเยี่ยมที่สภาฯบ้าง

ขณะที่ นายภูมิธรรม ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ดูงานในหลายเรื่อง รวมถึงดูกระทรวงพาณิชย์ หากอะไรที่เกี่ยวข้องกับงานที่ดูแลก็อยากให้สมาชิกช่วยสะท้อนปัญหาชีวิตประชาชนให้รับทราบและพร้อมที่จะทำงานตอบสนองตรงนี้อย่างเต็มที่ อะไรที่นโยบายเพื่อประชาชน ก็อยากให้สมาชิกทำงานเชื่อมโยงไปถึงประชาชนด้วย ส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติจะทำรัฐธรรมนูญ ที่ขณะนี้ได้ประสานบุคคลต่างๆ มาเป็นคณะกรรมการ ตั้งใจไม่อยากให้เกิน 30 คน เพื่อให้การทำงานได้ง่ายขึ้น โดยจะพยายามดึงทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ที่วางกรอบไว้ไม่ให้เกิน 4 ปี เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งใหม่ ได้ทำตามกรอบใหม่ที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ยืนยันรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้เสนอให้ประชาชนเอง ซึ่งถือเป็นทางออกที่เร็วที่สุดที่จะทำได้ พร้อมย้ำว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไปรวบรวมความคิดเห็นจากทุกฝ่าย โดยจะไม่แตะหมวด 1-2 และพระราชอำนาจ ซึ่งเป็นกรอบหลักในการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เดินหน้าปิดเว็บพนันออนไลน์ หากพบเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ดำเนินการตามกฎหมายไม่ละเว้น

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถูกบุกค้นบ้านพักและมีการขยายผลลูกน้องเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันออนไลน์ว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ปิดเว็บไซต์เกี่ยวกับพนันออนไลน์ไปแล้วกว่า 4,400 เว็บไซต์ ตำรวจดำเนินคดีไปแล้วกว่า 6,000 คดี

ส่วนเรื่องการใช้บัญชีม้า ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบไปถึงเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด เพื่อให้รู้ที่มาที่ไปของเงิน

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีมีแนวคิด นำภาคเอกชนเข้ามาเป็นคณะกรรมการร่วมในการปราบเรื่องพนันออนไลน์ เห็นว่าเป็นเรื่องที่สามารถช่วยได้ พร้อมเตือนเจ้าของเว็บพนันและผู้เล่น มีความผิด มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ผู้เล่นอาจจะถูกแฮกข้อมูลส่วนตัว และอาจถูกติดตั้งแอปพลิเคชันจึงขอให้ยกเลิก ซึ่งการดำเนินการกับบัญชีม้า ที่เป็นต้นเหตุให้สามารถเปิดพนันออนไลน์ โดยไม่สามารถสาวถึงตัวเจ้าของได้ เรื่องนี้ต้องพูดคุยกับธนาคาร ตำรวจ และศาล เพื่อระงับยับยั้งบัญชีและมองว่าจำเป็นขยายผลทั้งคนเปิดคนรวบรวมและปลายทาง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังกล่าวถึงกรณีลูกน้องของพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและขยายผลไปถึงคนอื่น เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีในเรื่องปราบปรามผู้มีอิทธิพล จึงต้องดำเนินการโดยเด็ดขาด ไม่ว่าบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินคดี

เร่งตรวจสอบกรณีน้ำมันเชื้อเพลิงของ มทบ.18 จังหวัดสระบุรี สูญหาย 2 แสนลิตร

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีน้ำมันเชื้อเพลิงของ มทบ.18 จังหวัดสระบุรี สูญหายจากคลังกองโรงงานซ่อมสร้างรถยนต์ทหาร ศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ กองทัพบก กว่า 2 แสนลิตรว่า ขณะนี้มีรายงานเข้ามาแล้ว และกำลังดำเนินการตามขั้นตอนอยู่ โดยเฉพาะการหาคนกระทำความผิด

ส่วนที่พรรคก้าวไกลวิจารณ์เรื่องนี้และอยากให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน ยืนยันว่าติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นเรื่องที่เกิดในกองทัพ ซึ่งต้องขอให้รอดูการสืบสวนสอบสวนให้แน่ชัดก่อนว่าบุคคลในกองทัพมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เชื่อว่าไม่นานเรื่องทุกอย่างคงจบ

ทั้งนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดความคืบหน้าเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับทางการเยอรมัน เนื่องจากเรื่องยังไม่ส่งมาที่กระทรวงกลาโหมและยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้

เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว

มาตรการวีซ่าฟรีของรัฐบาล สามารถทำให้นักท่องเทียวเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (18 ก.ย-24 ก.ย.66) พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากโอเชียเนียมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 13.48 ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากเอเชียใต้ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ร้อยละ 0.55 ส่งผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมา ในไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 481,404 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 10,696 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้และลาว

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในสัปดาห์ถัดไป กลุ่มนักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกและอาเซียน จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าประเทศ (VISA Free) ประกอบกับช่วงวันหยุดยาวในตลาดสำคัญ โดยคาดว่าสัปดาห์ถัดไปจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 520,000 คน

อย่างไรก็ตาม จำนวนเที่ยวบินและเส้นทางการบินยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ รวมถึงแรงกดดันจากต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง อาหารและอัตราเงินเฟ้อ ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวทั้งระยะสั้น (Short Haul) และระยะไกล (Long Haul) โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 19,499,116 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 815,597 ล้านบาท

สถานกาณ์ภัยแล้งส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อไม่มาก กระทรวงพาณิชย์ตั้งวอร์รูมติดตามอย่างใกล้ชิด

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 จนถึงช่วงฤดูร้อนปี 2567 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือและภาคตะวันออก ที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างน้อย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ แต่ขนาดของผลกระทบยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะต้นทุนการผลิต ปริมาณและราคาในตลาดโลก ที่จะผลักดันให้ราคาสินค้าในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่มาตรการภาครัฐ จะเป็นปัจจัยทอนสำคัญที่ทำให้ราคาสูงขึ้นไม่มากนัก

กระทรวงพาณิชย์ มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้ออกมาตรการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที โดยกระทรวงพาณิชย์มีการตั้งวอร์รูมเพื่อรับมือกับผลกระทบและมีการประชุมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง หากผลกระทบมีความรุนแรง จะมีมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรและผู้บริโภคในระยะต่อไป ซึ่งต้องมีการพิจารณาถึงผลกระทบของมาตรการต่อทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้บริโภคอย่างรอบด้าน

นายพูนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าในตระกร้าเงินเฟ้อที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง จะเป็นสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เป็นสำคัญ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มผักสด ผลไม้สด ข้าว ไข่ ปลาและสัตว์น้ำ ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง เช่นเดียวกับหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่เป็นแหล่งผลิตสินค้ากลุ่มอาหารที่สำคัญ ได้รับผลกระทบจากเอลนีโญ ประกอบกับความกังวลต่อการขาดแคลนอาหาร จึงทำให้หลายประเทศมีมาตรการจำกัดการส่งออก ส่งผลให้อุปทานสินค้าอาหารโลกยิ่งตึงตัวมากขึ้น

สำหรับประเทศไทยยังไม่น่ากังวลมากนัก เนื่องจากเป็นประเทศที่ผลิตสินค้ากลุ่มอาหารอยู่แล้วและปริมาณที่ผลิตได้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ แต่หากภัยแล้งมีความรุนแรงมาก อาจจะกระทบต่อราคาสินค้าในประเทศและปริมาณการส่งออก โดยเฉพาะภูมิภาคที่มีปริมาณน้ำน้อยวิกฤตและน้ำน้อย ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือและภาคตะวันออก ซึ่งมีสินค้าเกษตรที่ผลิตมากในพื้นที่ ได้แก่ มันสำปะหลัง ข้าวนาปรัง อ้อย ลำไย ทุเรียน ไข่ไก่ และกุ้งทะเลเพาะเลี้ยง ที่อาจต้องติดตามสถานการณ์เป็นพิเศษ ซึ่งภาครัฐอาจออกมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นๆ ต่อไป

เกษตรกรรม/สิ่งแวดล้อม

กรมทรัพยากรธรณี ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 2-3 วันนี้ ในพื้นที่ 20 จังหวัด

ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ออกประกาศขอให้อาสาสมัครเครือข่ายกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไป เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1 – 2 วันนี้ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ กาญจนบุรี สระบุรี ลพบุรี นครนายก ชัยภูมิ ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กระบี่ ระนอง พังงา ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี

ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังด้วย

รณรงค์ควบคุมและกำจัดด้วงงวงเจาะเมล็ดมะม่วงแก่เกษตรกร เพิ่มศักยภาพมะม่วงส่งออก

นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ผลผลิตทางการเกษตรของประเทศไทยมีศักยภาพการแข่งขันในตลาดต่างประเทศหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ การผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก โดยเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี มีชนิดพันธุ์ที่หลากหลาย รสชาติหอมหวานเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค แต่ในช่วงระหว่างปี 2561 – 2566 พบด้วงงวงเจาะเมล็ดมะม่วงในมะม่วงที่ส่งออกไปยังสาธารณรัฐเกาหลี 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ลำพูน ฉะเชิงเทรา พิษณุโลก พิจิตร และจังหวัดกำแพงเพชร ผลผลิตมะม่วงถูกสั่งทำลายทิ้ง สร้างความเสียหายให้ผู้ประกอบการส่งออกเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงของประเทศไทยโดยตรง

จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ตรวจพบ ด้วงงวงเจาะเมล็ดมะม่วงในมะม่วงอบไอน้ำเพื่อการส่งออกตั้งแต่ปี 2565 – 2566 จำนวน 14.47 ตัน กรมส่งเสริมการเกษตร จึงจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างการรับรู้แก่เกษตรกร “มะม่วงไทย ไร้ด้วงงวงฯ” เพื่อควบคุมและป้องกันกำจัดด้วงงวงเจาะเมล็ดมะม่วงขึ้น ณ แปลงใหญ่ผู้ปลูกและแปรรูปมะม่วงมหาชนกตำบลหนองหิน หมู่ที่ 2 ตำบลหนองหิน อำเภอหนองกุงศรี เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับรู้เรื่องด้วงงวงเจาะเมล็ดมะม่วงและแนวทางการป้องกันกำจัดที่ถูกต้องเหมาะสมให้เกษตรกรเกิดความตระหนักในการติดตาม เฝ้าระวัง ป้องกันการระบาดของด้วงงวงเจาะเมล็ดมะม่วงในแปลงปลูกของตนเองอย่างสม่ำเสมอ และส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงมีการจัดการแปลงปลูกที่ดี มีการป้องกันกำจัดด้วงงวงเจาะเมล็ดมะม่วงด้วยวิธีผสมผสานและใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้องและปลอดภัย

ด้านนายสันติภาพ โทนหงส์สา เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ มีพื้นที่ปลูกมะม่วง 11,200 ไร่ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงในจังหวัดกาฬสินธุ์จะได้เรียนรู้เรื่องการป้องกันและกำจัดด้วงงวงเจาะเมล็ดมะม่วงอย่างถูกวิธี ถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้ร่วมกับกรมวิชาการเกษตรและภาคเอกชน ในการให้ความรู้การป้องกันและกำจัดด้วงงวงเจาะเมล็ดมะม่วง เพื่อให้เกษตรกรนำความรู้ไปใช้ป้องกันความเสียหายจากด้วงงวงเจาะเมล็ดมะม่วง

สังคม

ไทยสมายล์ บัส พร้อมชดใช้ค่าเสียหายจากอุบัติเหตุบนถนนพระราม 2

บริษัท ไทยสมายล์ บัส จำกัด (TSB) ชี้แจงกรณีรถประจำทางไฟฟ้า เกิดอุบัติเหตุบริเวณถนนพระราม 2 เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (26 ก.ย.) เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ว่า จากการส่งทีมงานตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น พบว่ารถที่เกิดเหตุเป็นรสบัสไฟฟ้า สาย S7 เบอร์ 11 ของอู่เคหะธนบุรี ระบบของรถบัสโดยสารไฟฟ้าไม่มีความผิดปกติใดๆ ทั้งเรื่องของระบบไฟฟ้าและระบบควบคุมการเบรก จึงยืนยันว่าสาเหตุของการชนครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของระบบตัวรถบัสโดยสารไฟฟ้า ซึ่งตามขั้นตอนปกติก่อนเดินรถในทุกวัน ทุกอู่จะทำการตรวจสอบความพร้อมของรถอย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันยังได้ทำการสอบสวนพนักงานขับรถเป็นที่เรียบร้อย พบว่าพนักงานขับรถยอมรับมีการพักผ่อนน้อยและเผลอเหม่อลอยชั่วขณะ เมื่อรถเคลื่อนตัวจึงเกิดอาการตกใจ ไปเหยียบคันเร่งแทนเบรกรถ ทำให้ความเร็วของรถพุ่งตัวไปจนเสียการควบคุมไปจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น

ทั้งนี้ยืนยันว่า บริษัท จะดำเนินการลงโทษพนักงานขับรถตามมาตรการขั้นสูงสุด พร้อมกำชับแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต




ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา

ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา

แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว



Source link