สงครามอิสราเอล-ฮามาส: นายกฯ อิสราเอลประกาศ “สงคราม” หลังฮามาสบุกโจมตี ชาวไทยอาจถูกจับเป็นตัวประกัน

ปรับปรุงแล้ว 8 ตุลาคม 2023

นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศ การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ถือว่ารุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมลั่นจะ “แก้แค้น” ต่อสิ่งที่เกิดในวันที่เขาเรียกว่า “วันสีดำ” (Black Day)

ตอนนี้ ในฝั่งอิสราเอล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 250 คนแล้ว บาดเจ็บอีก 1,452 คน หลังกลุ่มติดอาวุธฮามาส บุกโจมตีครั้งใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว ด้วยการบุกข้ามพรมแดนเข้าไปในอิสราเอล จากฉนวนกาซา ท่ามกลางการระดมยิงจรวดโจมตีอย่างหนัก

อิสราเอลส่งเครื่องบินรบโจมตีกลับระลอกใหญ่ทันที ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 232 คน และบาดเจ็บอีก 1,790 คน

ส่วนบนช่องสังคมออนไลน์เอง กลุ่มฮามาสได้เผยแพร่ภาพพลเรือนชาวอิสราเอลที่ถูกจับกุมเป็นตัวประกัน และมีหลายวิดีโอที่แสดงให้เห็นตัวประกันถูกพาตัวเข้าไปในฉนวนกาซา ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

มีรายงานว่า ชาวอิสราเอล และอาจรวมถึงแรงงานไทยอย่างน้อย 11 คน ถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสจับกุมเป็นตัวประกัน และพาตัวไปยังฉนวนกาซา จนถึงเวลา 11.40 น. ตามเวลาในไทย (8 ต.ค.) ทางการอิสราเอลรายงานว่า มีการปล่อยตัวประกันบ้างแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่ามีคนไทยหรือไม่

ทหารอิสราเอลยังยิงต่อสู้อย่างดุเดือดกับสมาชิกกลุ่มฮามาสอย่างน้อย 22 จุดทั่วอิสราเอล โดยในจำนวนนี้ อย่างน้อย 2 สมรภูมิ มือปืนฝ่ายฮามาสได้จับตัวประกันไว้ด้วย

กองทัพอิสราเอลเผยว่า นับแต่เช้าวันที่ 7 ต.ค. กลุ่มฮามาสได้ยิงจรวดมากกว่า 3,000 ลูกโจมตีเข้ามาในอิสราเอล

ลีเซ ดูว์เซ็ต หัวหน้าผู้สื่อข่าวระหว่างประเทศของบีบีซีวิเคราะห์ว่า “นี่เป็นสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ง ตลอดหลายสิบปีมานี้ ผู้นำอิสราเอล รวมถึงเบนจามิน เนธันยาฮู พยายามไม่ใช้การบุกโจมตีภาคพื้นดินเข้าไปในกาซา หรือบุกยึดดินแดนกลับคืน นับแต่ถอนกำลังพลเมื่อปี 2005”

“แต่นี่เป็นสงครามโฉมใหม่แล้ว เพราะมีคนถูกจับเป็นตัวประกันมากขึ้นเรื่อย มากกว่า 50 คนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตในฝั่งอิสราเอล เป็นจำนวนมาก” ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาลแนวคิดขวาจัดของอิสราเอล กำลังกดดันเนธันยาฮู “ให้ทำการใหญ่”

เช่นเดียวกับ กลุ่มฮามาส “ที่จะไม่ถอนกำลังง่าย ๆ”

และล่าสุด เวลา 8.00 น. ตามเวลาในไทย ผู้นำอิสราเอลได้ประกาศให้ประชาชนในฉนวนกาซา หนีออกจากบ้านและเคหะสถานไปยังที่ปลอดภัย เพื่อเตรียมรับมือกับ “การล้างแค้น” ต่อกลุ่มฮามาส

ทันทีที่กลุ่มฮามาสก่อเหตุโจมตีทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ระบุว่า อิสราเอล “เข้าสู่สงครามแล้ว” พร้อมประกาศว่า กลุ่มฮามาสที่ปกครองฉนวนกาซา จะต้อง “ชดใช้ด้วยราคาที่ไม่เคยพบมาก่อน”

“เช้าวันนี้ กลุ่มฮามาสได้ก่อการโจมตีโดยไม่เตือนล่วงหน้าต่อรัฐอิสราเอล และประชาชน” เขากล่าวในแถลงการณ์ผ่านวิดีโอเมื่อวันที่ 7 ต.ค.

การระดมยิงจรวดเข้าไปยังอิสราเอลครั้งนี้ ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอล ในรอบหลายปี และเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืด ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งตรงกับวันสะบาโต และวันซิมหัต โทราห์ ที่ชาวยิวจะออกมาเฉลิมฉลองกัน

และนี่ถือเป็นการปะทะครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เสียงสัญญาณเตือนภัยการโจมตีทางอากาศ ดังกระหึ่มทั่วอิสราเอล โดยกองกำลังป้องกันอิสราเอล ประกาศว่า “กลุ่มก่อการร้าย” ได้บุกเข้าอธิปไตยของอิสราเอล “ในหลายจุดพร้อมกัน”

ประชาชนที่อาศัยตามเมืองต่าง ๆ ใกล้กับฉนวนกาซา ได้โทรศัพท์หาสถานีข่าวของอิสราเอล รายงานว่า พวกเขาติดอยู่ภายในบ้านของตนเอง หลังกลุ่มติดอาวุธบุกเข้ามาในเมืองและหมู่บ้านของพวกเขา

กองกำลังป้องกันอิสราเอล ยืนยันว่า มีพลเรือนและเจ้าหน้าที่ทหาร ถูกลักพาตัวและจับเป็นตัวประกันจริง แต่ยังไม่ยืนยันตัวเลข

สังคมออนไลน์ไทย เผยแพร่ภาพที่เชื่อว่าเป็นคนไทย ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน แต่สำหรับ วนิดา มาอาษา ภรรยาของ อนุชา อ่างแก้ว ทันทีที่เห็นภาพหนึ่ง เธอรู้ทันทีว่านั่นคือสามีของเธอ

“ใช่จริง ๆ” วนิดา บอกบีบีซีไทย พร้อมยืนกรานว่า สามีเธอไม่แต่งตัวในลักษณะนี้ และเธอไม่ได้ติดต่อกับเขามาตั้งแต่เวลากลางคืน วันที่ 6 ต.ค. และหลังเช้าวันที่ 7 ต.ค. ก็ติดต่อเขาไม่ได้อีกเลย

“เพื่อนเขาก็ไม่รู้เรื่อง บอกติดต่อไม่ได้… ปกติ ถ้าจะรบจะแจ้งล่วงหน้าและอพยพไปที่ไร่ส้ม จะมีที่ให้ลี้ภัย พวกบังเกอร์ แต่รอบนี้ ไม่รู้เกิดเหตุอะไรขึ้น” วนิดา กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ

อนุชา ทำงานในไร่อะโวคาโด ตามการสมัครไปทำงานอิสราเอลกับกรมแรงงานมาเกือบ 2 ปีแล้ว ปกติวันเสาร์จะเป็นวันหยุดที่เขาจะไปเที่ยวกับเพื่อนในตัวเมือง

“อยากให้ช่วยพาออกมาให้ได้ค่ะ อยากให้กลับมาที่ไทย ช่วยออกมาอย่างปลอดภัย ” วนิดา ให้สัมภาษณ์ ฐาปนีย์ เอียดศรีชัย ผู้ก่อตั้งสำนักข่าว The Reporters ทางโทรศัพท์

ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 7 ขวบ

วันนี้ (8 ต.ค.) นายกรัฐมนตรีไทย เปิดเผยข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการถึงสถานการณ์คนไทยในอิสราเอล เบื้องต้น มีคนไทยเสียชีวิต 2 ราย และเข้าใจว่า “ถูกกักขัง” อีก 11 ราย แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่าอยู่จุดไหน หรือส่วนไหนของอิสราเอล

เศรษฐา ระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีการสู้รบและมีการประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้าน ในส่วนของกองทัพอากาศไทย ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว แต่น่านฟ้าที่อิสราเอลยังปิด เนื่องจากมีการสู้รบ

ดังนั้น จึงต้องมีการเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง ซึ่งจะมีคณะแพทย์ร่วมเดินทางไปด้วย เพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับผลกระทบ

ส่วนการเจรจาช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับกุมนั้น แม้ว่าจะยังไม่ทราบสถานที่อยู่ก็จะพยายามที่จะประสานงานเพราะถือว่าเป็นคนที่บริสุทธิ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง

ปัจจุบัน มีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอล จำนวน 25,000 คน และ 5,000 คนอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุรุนแรงใกล้ฉนวนกาซา

ครั้งนี้ สมาชิกกลุ่มติดอาวุธฮามาสหลายคนฝ่ารั้วกั้นพรมแดนเข้ามาในอิสราเอล ในช่วงก่อนรุ่งสาง ในเวลาเดียวกัน ฮามาสได้ระดมยิงจรวดจากฉนวนกาซา พุ่งโจมตีหลายพื้นที่ ไกลถึงกรุงเทลอาวีฟและนครเยรูซาเลม

กลุ่มติดอาวุธพร้อมอาวุธครบมือเหล่านี้ ฝ่าแนวกั้นพรมแดนที่แน่นหนาที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเข้าไปได้อย่างไร ยังไม่มีความน่าชัด

ด้านกองทัพอิสราเอลระบุว่า ได้ส่งเครื่องบินรบหลายสิบลำ ทำการโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา รวมถึงฐานบัญชาการของฮามาส 1 แห่ง ไม่เพียงเท่านั้น กองทัพอิสราเอลได้ระดมทหารกองหนุนอีกหลายหมื่นนาย เพื่อเตรียมความพร้อมแล้ว

สำหรับกรณีคนไทยถูกจับเป็นตัวประกัน นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แจ้งว่า จากการประสานแรงงานไทยในพื้นที่ อาจมีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน

จากการตรวจสอบกับทางการอิสราเอล ทางการอิสราเอลยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้ และรับจะเร่งตรวจสอบต่อไป ด้านกรมแรงงานรายงานในเวลาต่อมา ยืนยันว่า มีคนไทยอย่างน้อย 2 คน ถูกจับไปจริง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เบื้องต้น ได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ติดตามอย่างเต็มที่ และ สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่องบินเพื่อภารกิจอพยพคนไทยในอิสราเอล หากสถานการณ์จำเป็นและมีสัญญาณให้บินเข้าไปได้ โดยพรุ่งนี้ ( 8 ต.ค.) จะมีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

“ผมขอประณามการโจมตีอิสราเอล การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว” เศรษฐา ระบุผ่านเอ็กซ์

“ผมติดตามสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และมีความกังวลใจที่เห็นรายงานเข้ามาว่ามีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน หรือมากกว่า ตอนนี้กำลังยืนยันข้อมูลจากทางการอิสราเอลอยู่ ทางกองทัพและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเตรียมความพร้อม ผมต้องการให้คนไทยทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยครับ”