ข่าวสารกรุงเทพฯ

ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิตยอดภูกระดึง | Thai PBS News ข่าวไทยพีบีเอส


1 ต.ค.นี้ อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะเปิดการท่องเที่ยวและพักแรม โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมธรรมชาติได้ตั้งแต่ 1 ต.ค.2566-31 พ.ค.2567 มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันวิ่งเทรล การรับชมการแสดงพื้นบ้าน หรือจะเป็นการตั้งเต็นท์พักแรมเพื่อรอชมทะเลหมอก และการดูสัตว์ป่า รวมถึงพืชพันธุ์หายากต่าง ๆ

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาชมธรรมชาติที่อุทยานฯ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากเพจอุทยานแห่งชาติภูกระดึง – Phu Kradueng National Park โดยอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเปิดให้บริการทุกวัน
วันธรรมดา อนุญาตให้ขึ้น-ลงเขา เวลา 06.00-13.00 น.
วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ อนุญาตให้ขึ้น-ลงเขา เวลา 05.30-13.00 น.

ขั้นตอนการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
1.ลงทะเบียนเข้าอุทยานฯ ผ่านแอปพลิเคชัน QueQ
App store : https://shorturl.asia/6lvnI

Google play : https://shorturl.asia/rpTcL

เนื่องด้วยช่วงวันหยุดยาวอาจทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเป็นจำนวนมาก ทางอุทยานฯ จึงจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมอุทยานฯ ในแต่ละวัน ทั้งนี้ในกรณีที่ลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน QueQ เต็มแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถ Walk in เข้ามาได้ แต่จำกัดจำนวน 600 คน / วัน เท่านั้น ดังนั้นถ้าไม่อยากพลาดโอกาสดี ๆ ควรวางแผนและจองเข้าอุทยานฯ ให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง และสำหรับผู้ที่ต้องการจองบ้านพักและเต็นท์ สามารถจองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน ที่เว็บไซต์ https://nps.dnp.go.th/reservation.php หรือ โทร.042-810-834

2.ด่านที่ 1 ชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติสำหรับยานพาหนะ และบุคคล ณ ด่านเก็บค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
3.ด่านที่ 2 ฝากยานพาหนะกับเจ้าหน้าที่ ณ ด่านตรวจยานพาหนะเข้า – ออกอุทยานแห่งชาติ (ด่านตรวจ 2) ในกรณีที่นักท่องเที่ยวพักค้างคืนและนำยานพาหนะส่วนตัวมาเอง
4.ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศรีฐาน (เชิงเขา) เป็นจุดสำหรับติดต่อ/ตรวจสอบการจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน QueQ หรือ ผู้ที่ Walk in เข้ามา พร้อมทั้งติดต่อค่าที่พัก ค่าขอใช้พื้นที่กางเต็นท์และลงทะเบียนเข้าพักบ้านพักกับเจ้าหน้าที่

5.อาคาร 4 ติดต่อจ้างหาบสัมภาระขึ้นเขากับเจ้าหน้าที่ ณ อาคารสัมภาระ (อาคาร 4) ในกรณีที่นักท่องเที่ยวต้องการจ้างลูกหาบ
6.ด่านตรวจ 3 จุดลงทะเบียน จุดลงทะเบียนขึ้นเขาพร้อมแสดงบัตรค่าบริการสำหรับบุคคล และบัตร

QueQ หรือ ผู้ที่ Walk in กับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจบัตรค่าบริการบุคคล (ด่านตรวจ 3) เมื่อปฏิบัติตามขั้นตอนของทางอุทยานฯ เรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางสู่ยอดเขาภูระดึงได้เลย

ในเดือนตุลาคมถือเป็นช่วงเริ่มต้นเปิดการท่องเที่ยวอุทยานฯ ที่ยังคงมีกลิ่นไอฤดูฝนอยู่ ชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความสดชื่น สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดที่ “น้ำตกโผนพบ” ที่ตั้งชื่อตามผู้ที่ค้นพบน้ำตกเป็นคนแรก คือ โผน กิ่งเพชร ซึ่งเป็นนักมวยแชมป์โลก น้ำตกนี้เป็นน้ำตกที่อยู่ในเส้นทางเดินป่า เกิดจากน้ำที่ไหลลงมาจากชั้นป่าในอุทยานฯ ในช่วงฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำมาก โดยเฉพาะช่วงต้นต.ค. เป็นช่วงที่น้ำตกโผนพบสวยที่สุด นับเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่ควรไปเยือน

ส่วนการเดินทางไปยังน้ำตกจะเดินตามทางเท้าจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง (ยอดเขา) ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร อาจจะไม่ใช่ระยะทางที่ใกล้มากนัก แต่รับรองเลยว่าบรรยากาศและความงดงามของน้ำตกจะทำให้ทุกท่านลืมความเหนื่อยไปได้เลย
(ภาพ)
ส่วนนักท่องเที่ยวคนใดมีแพลนจะไปท่องเที่ยวเดือนธ.ค. ก็สามารถรับชมความงามของ “ต้นเมเปิ้ลสีแดง” แนะนำว่าช่วงเดือนธ.ค.จะเป็นช่วงที่ใบเมเปิ้ลเริ่มเปลี่ยนสี ทั้งนี้ใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนสีช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปีเช่นกัน จุดชมเมเปิ้ลแดงหลัก ๆ จะอยู่บริเวณน้ำตกถ้ำใหญ่ และน้ำตกเพ็ญพบใหม่

รวมถึงบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง (ยอดเขา) ก็มีให้ชมเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ทางอุทยานฯ ขอความกรุณานักท่องเที่ยวทุกท่านเก็บความทรงจำด้วยกล้องถ่ายรูปเท่านั้น ไม่เด็ดใบหรือเก็บใบกลับบ้านเป็นของที่ระลึก เพื่อให้ธรรมชาติคงอยู่ เติบโต และงดงาม ณ ที่แห่งนี้ต่อไป

ชมธรรมชาติสวย ๆ กันไปแล้ว มาส่องเหล่าสัตว์น่ารัก ๆ กันบ้าง อุทยานฯ ไม่เพียงแต่จะมีพรรณไม้นานาชนิดเท่านั้น แต่ยังที่อยู่ของพันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์อีกด้วย เนื่องจากภูมิประเทศอุดมไปด้วยป่าไม้ ทุ่งหญ้าและลำธาร ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์

มีสัตว์ป่าที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป เช่น ช้างป่า กวางป่า หมูป่า ลิงกัง กระรอกหลากสี เม่นหางพวง นกหัวขวานสามนิ้วหลังทอง รวมทั้ง เต่าปูลู หรือ เต่าหาง มีลักษณะหางยาว เป็นเต่าที่พบเห็นได้ยาก มักจะอาศัยอยู่ตามลำธารในป่าเขาระดับสูงของประเทศ กัมพูชา ลาว และไทย

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาด หรือเรียกได้ว่าถ้าไม่มาเยือนจะถือว่ามาไม่ถึง คือ “ผานกแอ่น” เป็นจุดที่ผู้คนจะมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเช้า โดยผานางแอ่นอยู่ห่างจากที่พักศูนย์วังกวาง ประมาณ 2 กิโลเมตร

สิ่งที่ควรเตรียมเมื่อเดินทางมาที่นี่ คือ ไฟฉาย รวมทั้งไม่ควรใส่รองเท้าแตะ เพราะช่วงเช้ามักจะมีทากเยอะ แนะนำว่าควรไปช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะจะได้ดื่มด่ำไปกับทะเลหมอกยามเช้าพร้อมอากาศเย็น ๆ ถือเป็นช่วงที่จะเห็นทะเลหมอกได้สวยที่สุดนั่นเอง

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ถือเป็นจุดมุ่งหมายหนึ่งที่ไม่ว่าใครได้มาสัมผัสกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ก็ต้องประทับใจไปตาม ๆ กันจนต้องกลับมาเยือนอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยมาเช็คอินที่นี่ อุทยานฯ ภูกระดึงนับเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่หนึ่งที่ควรจะลองมาสักครั้ง รับรอบได้ว่าอุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะทำให้ทุกท่านลืมความเครียด และได้รับความทรงจำดี ๆ กลับไปอย่างแน่นอน

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
เบอร์โทร. 042-810-833 หรือ 042-810-834
Facebook : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง – Phu Kradueng National Park

ที่มา :
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง – Phu Kradueng National Park
ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช



Source link