ข่าวสารกรุงเทพฯ

“จันทร์ส่องหล้า” บ้านตระกูลชิน-รับแขกสำคัญ สู่ที่พักโทษ “ทักษิณ” | Thai PBS News ข่าวไทยพีบีเอส


อ่าน : “อุ๊งอิ๊ง” ยังไม่รู้ “ทักษิณ” ออกวันไหน 18 หรือ 22 ก.พ.รอหมอสรุป

คฤหาสน์หลังใหญ่ล้อมรอบด้วยกำแพงสีขาวใน ซ.จรัญสนิทวงศ์ 69 กำลังจะถูกเปลี่ยนจากบ้านพัก เป็นพื้นที่ “พักโทษ” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องขังคดีทุจริตคอร์รัปชัน หลัง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ยืนยันว่า “ทักษิณ” คือ  1 ใน 930 ผู้ต้องขังที่มีรายชื่อเข้าเกณฑ์การพักโทษตามกฎหมายราชทัณฑ์​มาตรา​ 52 

บ้านจันทร์ส่องหล้า

บ้านจันทร์ส่องหล้า

บ้านจันทร์ส่องหล้า

สอดคล้องกับ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุว่า เป็นข่าวดีที่นายทักษิณจะได้รับความยุติธรรม และถึงเวลาแล้ว ที่นายทักษิณจะได้ใช้เวลาทั้งชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข โดยยืนยันว่าครอบครัวได้ปัดฝุ่น “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ไว้ให้ตั้งแต่ก่อนที่นายทักษิณจะบินกลับจากสิงคโปร์เพื่อมารับโทษที่ไทยในวันที่ 22 ส.ค.2566 ที่ผ่านมา 

อ่าน : จับกระแสการเมือง 14 ก.พ.2567 : “หวานเจี๊ยบ” ร่วมรัฐนาวา พา “ทักษิณ” กลับบ้าน

เปิดรั้ว “บ้านจันทร์ส่องหล้า” 

“บ้านจันทร์ส่องหล้า” ถือเป็นสถานที่สำคัญบนเส้นทางการเมืองของตระกูลชินวัตร เป็นทั้งบ้านพักส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย กับ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร คฤหาสน์หลังนี้ ยังเป็นเหมือน “เซฟเฮ้าส์” ของนักการเมืองสาย “จันทร์ส่องหล้า” หรือ สส.สายตรงของนายใหญ่ “ทักษิณ” ที่ใช้นัดและพบปะหารือ เพื่อกำหนดทิศทางของการเมืองไทยในหลายยุคหลายสมัย

อีกทั้งยังเคยทำหน้าที่เป็นสถานที่รับรอง นายจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช อดีต ปธน.คนที่ 41 ของสหรัฐฯ เมื่อครั้งมาเยือนประเทศไทย พร้อมกับ นายบิล คลินตัน ปธน.คนที่ 42 ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น ในช่วงที่ประเทศไทยประสบเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ.2547

บ้านจันทร์ส่องหล้า

บ้านจันทร์ส่องหล้า

บ้านจันทร์ส่องหล้า

แม้จะเคยทำหน้าที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง แต่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ก็ตกเป็นเป้าโจมตีทางการเมืองเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2556 บ้านจันทร์ส่องหล้าถูกกลุ่มคนเสื้อหลากสีบุกไปเยือนพร้อมติดตั้งโทรโข่งปราศรัยคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง โจมตีตระกูลชินวัตรที่หน้าบ้าน

ขณะที่ในปี 2560 ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรได้นำเอกสารเรียกเก็บภาษีมูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาท ไปติดที่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า โดยอ้างว่าเป็นเงินภาษีที่ได้จากการซื้อขายหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด กว่า 3,000 ล้านหุ้น

โดย พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ ในขณะนั้นกล่าวว่าเป็นเรื่องปกติที่เจ้าหน้าที่ต้องนำเอกสารไปติดไว้หน้าบ้าน เพราะเจ้าของบ้านไม่อยู่ที่บ้าน แม้ต่อมา นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของนายทักษิณ จะออกมาชี้แจ้งว่า การซื้อขายหุ้นในครั้งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริงและไม่มีเงินได้ จึงไม่ต้องชำระภาษี และได้ยื่นคำขออุทธรณ์ต่อกรมสรรพากร 

อ่าน : เสียงสะท้อน! “ทักษิณ” Comeback จับตาแรงกระเพื่อมการเมือง

จันทร์ไม่หยุดส่องแสง เมื่อทักษิณคืนเรือน “ส่องหล้า”

ประตูบ้านจันทร์ส่องหล้าเคยถูกปิดลง หลังจากเจ้าของบ้านเดินทางไปดูโอลิมปิกฤดูหนาวที่ประเทศจีนเมื่อปี 2551 จนปีนี้ ปี 2567 ประตูบ้านหลังนี้กำลังจะถูกเปิดอีกครั้ง จากที่พัก ที่ประชุม ที่รับรอง กลายเป็น “ที่พักโทษ” ของนายทักษิณ ชินวัตร ภายใต้ 8 เงื่อนไขที่ผู้ถูกคุมประพฤติจะต้องประพฤติปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการคุมความประพฤติ พ.ศ.2560 ดังนี้

  1. ต้องพักอาศัยอยู่ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้กับเรือนจำ
  2. ห้ามออกนอกเขตท้องที่ที่อาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต
  3. ห้ามประพฤติตนเสื่อมเสีย เช่น เล่นการพนัน กระทำผิดอาญา
  4. ประกอบอาชีพโดยสุจริต
  5. ปฏิบัติตามลัทธิศาสนา
  6. ห้ามพกพาอาวุธ
  7. ห้ามไปเยี่ยมบ้านหรือติดต่อกับนักโทษอื่นที่ไม่ใช่ญาติ
  8. ให้ไปรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติเรือนจำ เจ้าพนักงานปกครอง หรือหัวหน้าสถานีตำรวจทุกเดือน

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ กรมราชทัณฑ์ก็ยังระบุวัน-เวลาที่ชัดเจนว่า อดีตนายกฯ ทักษิณจะถูกปล่อยตัวในวันที่ 18 ก.พ.จริงหรือไม่ แต่ตามกฎระเบียบ หลังรับโทษครบ 6 เดือน หรือครบ 180 วันแล้ว แค่เข็มนาฬิกาชี้เลยเพียงแค่ 1นาทีของวันถัดไป ก็เข้าหลักเกณฑ์ระเบียบการพักโทษ จึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ประตูบ้านจันทร์ส่องหล้าจะเปิดรับการกลับมาของเจ้าของบ้านอีกครั้งในเวลาเท่าใด 

อ่าน : “ทวี” เปิดปาก “ทักษิณ”​ อยู่ในรายชื่อเกณฑ์พักโทษ​ 945 คน 



Source link