ข่าวสารกรุงเทพฯ

ดึงดันยิ่งพัง! “สมชัย” ชี้ 4 ข้อ “เพื่อไทย” เปลี่ยนท่าทีแจกเงินดิจิทัล ซัด “เศรษฐา” คิดจากหัวไปหางไม่รอด เหตุไม่มีเงิน



ภาพ นายเศรษฐา ทวีสิน และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย จากแฟ้ม
“สมชัย” ชี้ 4 เหตุผล “เพื่อไทย” เปลี่ยนท่าทีแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ระบุ เป็นบทเรียน ดึงดันพังมากกว่านี้ ซัด “เศรษฐา” คิดจากหัวไปหางไม่รอด เหตุ “ไม่มีเงิน” ต้องกลับมาคิดแบบ หางไปหัว เผย 3 ตัวเลือกตัดคนรวย
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(26 ต.ค.66) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สมชัย ศรีสุทธิยากร ระบุว่า

“ทำไม รัฐบาลเพื่อไทย ต้องเปลี่ยนท่าที กรณีแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

1. จะใช้งบประมาณแผ่นดินปี 2567 กว่า พ.ร.บ.งบประมาณปีนี้จะผ่าน ก็ 17 เมษายน 2567 ใช้ก่อนไม่ได้ ผิดกฎหมาย

2. จะใช้มาตรการกึ่งการคลัง ยืมเงินออมสิน ออมสินบอกช่วยได้บางส่วน แต่พอถามกฤษฎีกา กฤษฎีกาตอบว่า ขัดกับ พ.ร.บ.ธนาคารออมสิน ไม่สามารถทำได้

3. จะกู้เงิน ก็เกรงโดนด่าทั้งประเทศว่า กู้มาแจก สร้างหนี้ให้ลูกหลาน จะออก พรก. เงินกู้ ในช่วงปิดสมัยประชุมสภา ก็ไม่มีเหตุผลฉุกเฉินจำเป็น และ อาจขัด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ

4. ทางออกที่เหมาะสมแล้ว คือ ใช้งบประมาณแผ่นดินจากการตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ลดขอบเขตการแจก และ การขยับวันแจกเป็นปลายเมษายน หรือ ต้นพฤษภาคม หลัง พ.ร.บ. งบประมาณผ่านสภา

บทเรียนสำหรับพรรคการเมืองในเรื่องนี้ คือ การเสนอนโยบายต้องมองความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ไม่ใช่พูดตัวเลขประชานิยมใหญ่โต แล้วเป็นภาระงบประมาณแผ่นดิน ถึงเวลาก็มีข้อจำกัดมากมาย ไม่สามารถทำได้จริง ทำให้ต้องเสียหน้า เสียความน่าเชื่อถือ และหากจะดึงดันต่อ ก็อาจสูญเสียมากกว่านั้น”

ภาพ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร จากแฟ้ม
ก่อนหน้านี้ นายสมชัย ยังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กสมชัย ศรีสุทธิยากร ด้วยว่า

“คิดแบบหางไปหัว เพราะหมดปัญญาคิดแบบหัวไปหาง

มติ อนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ที่กำหนดเกณฑ์กรองคนรวยออก เป็นคิดแบบหางไปหัว คือ เหลือคนเท่าไรแล้ว ค่อยไปคิดว่า จะหาเงินจากไหน

ในขณะที่โจทย์คุณเศรษฐาให้ เป็นการคิดแบบหัวไปหาง คือ หากจะแจก 56 ล้านคน ใช้เงิน 560,000 บาท จะหาเงินจากไหน

ซึ่งเมื่อเช็คเงินในทุกกระเป๋า รีดไขมันจนตัวแฟบแล้ว หากจะแจกให้ได้ ก็รู้ว่าต้องกู้มาแจกเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนจะผิด พรบ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ ในหลายมาตรา จนเกิดอาการไอ คุก คุก ของคนรอบข้าง

ทางออกจึงต้องคิดกลับจากหางไปหัว จำกัดคนได้รับ ซึ่งจะใช้เกณฑ์เงินเดือนหรือเงินฝาก ก็ดูไม่เข้าท่า จึงอาจจบที่เกณฑ์คนยากไร้ หรือคนที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไว้

จำนวน 56 ล้านคน ก็จะลดฮวบเหลือ 15-20 ล้านคน เงิน 560,000 ล้าน ก็จะเหลือ 150,000 – 200,000 ล้านบาท ที่อยู่ในวิสัยที่จะหาเงินงบประมาณแผ่นดินให้ได้ แต่ต้องใช้กระบวนการจัดทำงบประมาณในสภา ซึ่งจะเสร็จ 17 เมษายน 2567

สรุปทางที่น่าจะเป็นไป

1. แจกคนจนเท่านั้น

2. เหลือวงเงินไม่เกิน 200,000 ล้านบาท

3. ใช้งบประมาณแผ่นดินแหล่งเดียว

4. แจก ปลายเดือน เมษายน 2567

พูดแบบนี้แต่แรก ก็จบ

จบด้วยข่าวพยากรณ์อากาศ พายุหมุนที่ก่อตัวในทะเลจีนใต้ บัดนี้ ได้อ่อนกำลังเป็น ลมพัดชายทุ่งแล้ว”

ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก The METTAD แชร์ ข้อมูลจาก THE STANDARD WEALTH

พร้อมระบุว่า “ยินดีกับคนยากจนและคนที่ไม่เข้าระบบภาษีด้วยครับ”

ทั้งนี้ THE STANDARD WEALTH ระบุว่า

“BREAKING: อนุกรรมการ Digital Wallet เคาะ 3 ตัวเลือกตัด ‘คนรวย’

1. เงินเดือนเกิน 2.5 หมื่นบาท หรือเงินฝาก 1 แสนบาทขึ้นไป
2. เงินเดือนเกิน 5 หมื่นบาท หรือเงินฝาก 5 แสนบาทขึ้นไป
3. ให้เฉพาะผู้ยากไร้

พร้อมส่งให้กรรมการชุดใหญ่ตัดสินใจ”



Source link