ข่าวสารกรุงเทพฯ

นายก​ฯ ปาฐกถา ​Thailand’s Future​ อนาคตประเทศไทย​ 2024


โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ฯ 24 ต.ค. – นายก​รัฐมนตรี​ ปาฐกถา ​“Thailand’s Future​ อนาคตประเทศไทย​ 2024” บอกหลายคนไม่มั่นใจนโยบายรัฐบาล แต่พร้อมแจงทุกเรื่องอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ย้ำดิจิทัลวอลเล็ตทำแน่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แจงไม่ให้เงินสด ปิดช่องใช้จ่ายใน กทม. มั่นใจแจงแหล่งเงินได้หมด ยันทำทุกอย่างเพื่อยกระดับชีวิตคนไทยทุกคนในทุกมิติ

นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​การคลัง​ กล่าวปาฐกถา​พิเศษ​ ภายในงาน Dinner Talk : Thailand’s Future​ อนาคตประเทศไทย​ 2024 โดยนายเศรษฐา​ กล่าวว่า​ เรื่องที่สะเทือนใจใน 10 วันที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบกันดี คือ สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก หากไม่พูดถึงการเมืองในภาคใหญ่ พูดถึงภาพเราต่อให้เห็นว่า ทำไมรัฐบาลเราจึงต้องทำงานอย่างหนักกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อปากท้องให้ดีขึ้นและเหมาะสมและรวดเร็วที่สุด ทำไมจึงต้องซ่อมเศรษฐกิจ ซ่อมความเป็นอยู่ของเขาที่ลำบากมาตลอด เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยในหลายๆ มิติ หากติดตามจากตนให้อัปเดตสถานการณ์อิสราเอล เมื่อวานนี้มีการให้สัมภาษณ์ไปว่า ตนขอร้องวิงวอนอ้อนวอนให้คนงานที่อยู่ในอิสราเอลเดินทางกลับไทย โดยในปัจจุบันกระทรวงการต่างประเทศ​ได้ทำงานหนัก เพื่อนำคนกลับมาให้ได้วันหนึ่งเฉลี่ยประมาณ 800-1,000 คน แต่ก็มีคนเปลี่ยนใจไม่กลับ เพราะทางนายจ้างบอกว่าจะให้เงินเพิ่มมากขึ้น จะจ่ายเงินอีกครั้งในวันที่ 10 พฤศจิกายน โดยต้องมองว่า การให้เงินเพิ่มมากขึ้นนั้นคุ้มหรือไม่กับความเสี่ยง คนที่อยู่ดินแดนที่มีความเสี่ยงจะหาเงินกลับมาจนเจอครอบครัวอีกหลายแสนหรือถึงล้านคน เขาไม่มีทางเลือก เพราะประสบความลำบาก​ ยอมเสียชีวิตเพื่อจะอยู่ต่อ​ ซึ่งนายจ้างจับจุดถูก​ เป็นที่น่าสลดใจ​ แต่ตนไม่รู้ว่าอีก​ 10 กว่าวันที่เหลือ แรงงานจะเปลี่ยนใจกลับมาหรือไม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์​ดังกล่าวส่อให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำของสังคมไทย​ โดยมาตรการระยะสั้นที่รัฐบาลได้ออกไป ไม่ว่าจะเป็นพักหนี้เกษตรกร ลดค่าไฟ ลดค่าน้ำมัน เหล่านี้เป็นมาตรการกระตุ้นระยะสั้น​ รวมถึงดิจิทัลวอลเล็ต​ ตนเชื่อมั่นหลายท่านในที่นี้อาจไม่เห็นด้วย หรือเห็นด้วย แต่อาจจะอยากให้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง​ หรือเห็นด้วยหมดเลย ซึ่งรัฐบาลพร้อมฟังเสมอ​ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำเป็น​ เพราะเศรษฐกิจไทยต้องการการกระตุ้น เพราะประชาชนที่อยู่ฐานรากประสบความลำบาก การที่เรากระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ให้ครัวเรือนละ 10,000 บาท​ ซึ่งสามารถนำเงินเหล่านั้นไปก่อร่างสร้างตัวได้​ ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่า ทำไมต้องจำกัดระยะทาง​ ทำไมต้อง​ 4 กิโลเมตร​ เนื่องจากไม่อยากให้คนนำเงินมาใช้ในเมืองใหญ่ แต่อยากให้ร้านค้าในพื้นที่ต่างๆ ได้ลืมตาอ้าปากจากตรงนี้ ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่จ่ายเป็นเงินสด เพราะไม่อยากให้นำเงินมาใช้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น ซึ่งทุกอย่างจะค่อยๆ คลี่คลาย และอธิบายให้ฟังต่อไปเมื่อโครงการทั้งหมดนี้จบสิ้น​ ซึ่งเรามั่นใจว่า ที่มาที่ไปของเงินและข้อเสนอแนะของหลายภาคส่วนที่เสนอแนะเข้ามา

นายเศรษฐา​ กล่าวยืนยัน​ว่า ความเหลื่อมล้ำของเศรษฐกิจของประชาชนคนไทย เป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงอีกประเทศหนึ่ง หากลงไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด พูดคุยกับประชาชน ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่มาก เป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไข เงินดิจิทัล 10,000 บาท ของแต่ละคนสามารถไปเปลี่ยนอาชีพเขาได้ มีหลายเสียงบอกว่า มีแต่การกระตุ้นเศรษฐกิจประชานิยม​ ไม่ใช่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว

แต่ตลอดระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา​ รัฐบาลนี้เห็นความสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาว​ ซึ่งการที่ตนเดินทางไปยังต่างประเทศ และในช่วงเดือนหน้าจะเดินทางไปประชุมเอเปค ก็น่าจะมีข่าวดี ทั้งของบริษัท Microsoft และ Google สิ่งเหล่านี้จะเป็นการสร้างรากฐานการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาว​ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เดินทางไปยังประเทศจีน​ มีสมาคมธนาคาร​ หอการค้าไทย​ ประธานอุตสาหกรรม​ ตนก็ไปพูดในเวทีการประชุม ปิดห้องคุยกัน 40-50 คนว่า รัฐบาลนี้จะไม่มีการเหนียมอายในการที่เราเอาเอกชนไป​เมื่อรัฐบาลเดินทางไปต่างประเทศ โดยรัฐบาลจะเป็นตัวกลางให้ทุกคนเข้าถึงสินค้าและการให้บริการต่างๆ ที่คนไทยสามารถ offer ได้

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ในปัจจุบันนี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการลงทุนสูงสุดในเรื่องของ EV ซึ่งไม่ใช่ผลงานของรัฐบาลนี้​ เป็นของรัฐบาลเก่า​ แต่รัฐบาลนี้มาสานต่อ ซึ่งจะมีโรงงานผลิตรถยนต์ EV อีกหลายรายเข้ามา โดยจะต้องส่งเสริมในลักษณะซัพพลาย​เชน​

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี​ ยังกล่าวถึง​การเดินทางไปยังซาอุดีอาระเบีย เพื่อพบกับบริษัทชั้นนำ พร้อมที่จะมาลงทุน เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ นโยบายการส่งออกเนื้อโค ตนไม่แน่ใจว่านโยบายนี้ถูกต้องหรือไม่ แต่หากมีตลาดก็ถือว่าถูกต้อง​ ตนไปบูรไน​ และมาเลเซีย​ รวมไปถึงซาอุดีอาระเบีย ได้ไปพูดคุยถึงเรื่องนี้ ทุกประเทศมีความต้องการโคสูงมาก ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรทั้งหลายให้เป็น 3 เท่า ใน 4 ปี ไม่ใช่แค่การอัปราคาสินค้า​ แต่นำอาชีพไปเสริม ไม่ใช่เพียงปลูกข้าวอย่างเดียว แต่ให้เลี้ยงโคด้วย

ส่วนเรื่องการพักหนี้เกษตรกรชั่วคราว​ เพื่อให้มีขวัญและกำลังใจที่จะทำธุรกิจอื่น ไม่ต้องคำนึงว่าแต่ละเดือนจะสามารถใช้หนี้ได้เท่าไร​ ซึ่งจะส่งผลทำให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น​

ขณะที่เรื่องรถไฟความเร็วสูง​ ตนได้หารือร่วมกับประธานาธิบดีสี​ จิ้นผิง ของจีน เพื่อเพิ่มศักยภาพต่อจิ๊กซอว์ One Belt One Road ที่จะทำให้ต่างชาติมั่นใจ​ และย้ายฐานการผลิตมายังที่นี่​ ซึ่งเป็นการยกระดับทำให้ไทยเป็นโลจิสติกส์ฮับระดับโลก แต่ไม่ใช่ว่าจะแย่งธุรกิจจากมะละกาหรือสิงคโปร์ แต่การที่เรามีการลงทุนตรงนี้จะร่นระยะเวลาได้ถึง 9 วัน ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า 4 ปีจะได้ลงมือหรือไม่ แต่แน่นอนว่าจุดเริ่มต้น โดยรัฐบาลนี้จะเริ่มโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขันของคนไทยทุกคน​

โดยนายก​รัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ การที่ตนกล่าวมา ไม่ใช่เพียงแต่ประชานิยมอย่างเดียว แต่เป็นการเติมเคเชฟในช่วงที่ขาดหายไป จะเป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันให้การสนับสนุนนโยบายการเงินการคลังที่ดี​ ไม่ใช่แค่การระมัดระวังเรื่องวินัยการเงินการคลัง แต่นโยบายการเงินการคลังที่ดี ยกระดับความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคน​ โดยคำนึงถึงวินัยด้านการเงินการคลัง ซึ่งรัฐบาลนี้ทราบดีว่า สถานภาพการเงินการคลังของเราเป็นอย่างไร​ ตรงไหนที่เราทำได้​ ตรงไหนที่เราควรทำ​ ซึ่งรัฐบาลยอมรับความเสี่ยง ติชมมาตลอด รับฟังข้อเสนอแนะมาตลอด​ รักษาไว้ซึ่งวินัยการเงินการคลัง

ทั้งนี้ นายกรัฐ​มนตรี​ กล่าวยอมรับว่า​ ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในหลายๆ เรื่อง หลายอย่างเกิดจากปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ กับคนที่มีและคนที่ไม่มี เราต้องช่วยกันมองอย่างเป็นธรรม​และชัดเจน เราอยู่กันไม่ได้ หากรัฐบาลไม่ช่วย แต่ต้องอยู่บนหลักการ​การกระตุ้นเศรษฐกิจ​ให้ตรงจุด

ขณะเดียวกัน​ นายเศรษฐา​ กล่าวว่า​ ตนไม่กลัวว่าใครจะว่าเอื้อประโยชน์ต่อเอกชน โดยรัฐบาลเป็นตัวกลางระหว่างการจับคู่เอกชนและเอกชนแต่ละประเทศ​ ผมเชื้อเชิญและยินดี​ที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่เชื่อมเอกชนเข้ากับบริษัทข้ามชาติต่างชาติที่อยากมาลงทุน รัฐบาลนี้เต็มใจที่จะช่วยเหลือ เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยขึ้นไป

โดยนายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ เรื่องที่ตนพูดเป็นเรื่องที่จับต้องได้​ เป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์​ เรื่องความเหลื่อมล้ำยังมีอีกหลายมิติ การเห็นใจคนที่อยู่ชายขอบของสังคม ตนพูดซ้ำในหลายเวที​ เรื่องที่ทำให้ตัวเองเด่นกว่าหรือดีกว่า โฆษณาทางโซเชียลมีเดียให้เกิดการอิจฉา​ริษยา การใช้ทรัพยากรของรัฐที่ไม่ถูกต้อง และยังมีการมาโอ้อวดกัน​ ผมถือว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำให้คนที่อยู่ฐานรากไม่สบายใจ ถ้าสังคมจะอยู่ได้อย่างเป็นสุข ผมว่าเรื่องเหล่านี้ต้องถูกลดทอนลงไป การที่จะทำให้เขาเห็นว่าเราเหนือกว่าคนอื่น ดีกว่าคนอื่น แม้ว่าสิ่งที่คุณมีจะไม่ได้ผิดหรือขโมยเขามา แต่ทำให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจในสังคม ทำให้คนอีกหลายสิบล้านคนที่ไม่มีเยอะเท่าพวกคุณมีความไม่สบายใจ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราทุกคนควรที่จะตระหนักให้ดีกว่านี้ เราทุกคนช่วยกันได้ดีกว่านี้ ไม่ใช่แค่เรื่องความรู้สึกอย่างเดียว ไม่ใช่เรื่องของคนรุ่นใหม่อย่างเดียว ที่เราจะต้องดูแลรักษา ทำให้เขาเป็นกำลังสำคัญต่อไปในอนาคตของประเทศไทย

นายเศรษฐา​ กล่าวว่า​ ตนอยากให้เขาเห็นว่า รัฐบาลนี้พยายามสร้างความหวังและแรงบันดาลใจในการที่จะเดินทางไปเปิดประเทศ มี​ Infar Structure ที่จะตอบโจทย์ เราเข้าใจคนรุ่นใหม่ที่ต้องการจะเป็นเถ้าแก่เจ้าสัว ซึ่งรัฐบาลของเราช่วยเอื้อให้เขามีโอกาสและความหวัง ให้เขาถือสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยที่เหมาะสม​ นอกจากนี้ รัฐบาลพยายามทำอยู่อีกหลายเรื่อง​ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมรสเท่าเทียม ความสมัครใจเกณฑ์ทหาร​ ทำให้เขามีสิทธิเสรีภาพในการเลือก พร้อมกับกล่าวย้ำว่า เราพยายามทำอย่างเต็มที่ ไม่อยู่บนความขัดแย้ง

ในช่วงท้าย​ นายเศรษฐา​ กล่าวว่า​ ผมเชื่อว่าหลายท่านเป็นกำลังใจให้รัฐบาล และมีข้อสงสัยและไม่มั่นใจในทิศทางที่เรากำลังเดินไป เราอยู่ด้วยกันหลายๆ ความคิด มาจากหลายๆ ความเห็นต่าง เป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ แต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องพยายามชี้แจงและอธิบายให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ รัฐบาลนี้จะไม่เหน็ดเหนื่อยกับการที่จะต้องอธิบายให้ทุกท่านฟังว่า ทำไมจะต้องทำนโยบายอะไรออกมา เป็นหน้าที่ของรัฐบาลนี้ ผมยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า เรามาอยู่ตรงนี้ เรามาเพื่อที่จะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยทุกคนในทุกมิติ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม





Source link