ข่าวสารกรุงเทพฯ

ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 27 กันยายน …



ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 27 กันยายน 2566

ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 27 กันยายน 2566

การเมือง/มั่นคง

คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ มีมติแต่งตั้งพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14

ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 10/2566 ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อาวุโสลำดับที่ 4 เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14

การประชุม ก.ตร.ในวันนี้ เริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 15.00 น. และขยับวาระการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขึ้นมาพิจารณาเป็นวาระแรก จากเดิมอยู่ในลำดับที่ 66 โดยระหว่างการพิจารณาได้เชิญพลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ และพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 2 คน ที่มาร่วมประชุมออกจากห้องประชุมเพื่อให้คณะกรรมการได้พิจารณาเรื่องคุณสมบัติก่อนลงมติและใช้เวลาพิจารณานานกว่า 1 ชั่วโมง

สำหรับพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ารับราชการตำรวจในปี 2540 ก่อนเติบโตในสายงานมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในปี 2563 ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในปี 2564 และดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 รับผิดชอบงานด้านป้องกันและปราบปราม

นายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ 28 กันยายนนี้

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางเยือนกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา อย่างเป็นทางการ วันพรุ่งนี้ (28 ก.ย.66) ซึ่งเป็นการเยือนประเทศแรกในอาเซียนเพื่อแนะนำตัวหลังเข้ารับตำแหน่ง นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเยือนครั้งนี้ นอกจากเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว ไทยยังจะผลักดันความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนร่วมกัน เช่น แก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ คอลเซนเตอร์ ยาเสพติดและการเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมถึงการยกระดับจุดผ่านแดนเพื่ออำนวยความสะดวกในการออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราว การพัฒนาเส้นทางขนส่งสินค้า ความร่วมมือด้านแรงงาน รวมถึงการเร่งผลักดันสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) และจุดผ่านแดนถาวร คลองลึก-ปอยเปต เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตาี กล่าวอีกว่า การเยือนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะหารือทวิภาคีกับ พลเอก ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่พึ่งเข้ารับตำแหน่งเช่นกัน ซึ่งไทยจะหารือถึงความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ และการผลักดันการค้าชายแดน เพราะกัมพูชาเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย โดยไทยมีเป้าหมายเพิ่มปริมาณการค้าของ 2 ประเทศ จาก 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2568

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังจะเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จอัคคมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานองคมนตรีกัมพูชา รวมถึงเข้าเยี่ยมคารวะประธานรัฐสภากัมพูชาและประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ยังจะจัดเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีด้วย

ไทย และ สปป.ลาว ร่วมหาแนวทางปราบปรามยาเสพติดร่วมกัน ผลักดันปัญหายาเสพติดเป็นวาระนานาชาติ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พบหารือกับพลตรี คำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบและหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พลจัตวา สมหมาย พมมะจัน หัวหน้ากองบัญชาการป้องกันความสงบแขวงสะหวันนะเขต พันเอก อินปง จันทะวงสา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด และคณะ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลงานด้านความยุติธรรม การแก้ปัญหายาเสพติด ดังนั้นมั่นใจว่าจะได้ประสานและสนับสนุนการแก้ปัญหายาเสพติดกับ สปป.ลาว ได้ดีมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันต้องปราบปรามเว็บพนันออนไลน์ด้วย เนื่องจากพบว่าเส้นทางการเงินมีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติด พร้อมขอให้ สปป.ลาว ติดตามผู้ต้องหาในคดียาเสพติดตามหมายจับของไทยที่หลบหนีไปยัง สปป.ลาว ซึ่งพบว่ามีถึง 54 หมายจับ หากสามารถส่งตัวกลับมาไทยได้ ก็จะช่วยขยายผลไปสู่การยึดอายัดทรัพย์ได้อีกเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ พลตรี คำกิ่ง กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ได้หารือร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติดให้สัมฤทธ์ผล นอกจากนี้จากการหารือกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็มีแนวคิดตรงกันว่าจะผลักดันการแก้ปัญหายาเสพติด เป็นวาระนานาชาติ เพราะยาเสพติดถือเป็นปัญหาใหญ่ พร้อมเชื่อมั่นว่าจากนี้ ป.ป.ส.ของทั้ง 2 ประเทศ จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมงาน OTOP Midyear 2023 ที่สุดแห่งภูมิปัญญา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมงาน OTOP Midyear 2023 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 1 ตุลาคม 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ภายใต้แนวคิด ที่สุดแห่งภูมิปัญญารังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย ตามนโยบายส่งเสริม Soft Power ของรัฐบาล ซึ่งผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นหนึ่งในต้นทุนของพลังทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย โดยมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นำเยี่ยมชม

เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงบริเวณงาน OTOP Midyear 2023 ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี “พระราชกรณียกิจด้านการสืบสาน รักษาและต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” จากนั้นเยี่ยมชมการแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายในงาน เช่น ผ้าไทยใส่ให้สนุก First Lady (ผลิตภัณฑ์ผ้า) รวมทั้งชมศิลปิน OTOP สาธิตการทอผ้า การทำเปลือกไข่วิจิตรศิลป์และการทำเบญจรงค์ ตลอดจนชมกิจกรรม OTOP ที่กรมการพัฒนาชุมชนดำเนินการส่งเสริมและพัฒนา เช่น ร้านพึ่งพา โดยมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย OTOP Online OTOP ขึ้นเครื่อง OTOP Premium Young OTOP ผลิตภัณฑ์ OTOP ประเภทผ้า เครื่องประดับ ของใช้และสมุนไพร และ OTOP ชวนชิม

ทั้งนี้ ระหว่างนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมสินค้าและผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ต่างๆ ภายในงาน ได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผ้าชาวเขา ได้ทดลองเทคนิคการเขียนเทียนลงบนผ้าใยกัญชง โดยเขียนชื่อและนามสกุลของนายกรัฐมนตรีลงบนผ้าดังกล่าวด้วย

สำหรับกิจกรรมภายในงาน OTOP Midyear 2023 ประกอบด้วย โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โซนแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอปกว่า 1,200 บูธ โซน OTOP ชวนชิมมากกว่า 160 ร้านค้าทั่วประเทศ โซน OTOP Trader ประเทศไทย และ OTOP Trader จังหวัด ได้แก่ โซนท่องเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถี และผลิตภัณฑ์ในชุมชน OTOP นวัตวิถี เป็นการจัดแสดงความสำเร็จในชุมชน OTOP นวัตวิถี และผลิตภัณฑ์ของชุมชน OTOP ศิลปิน จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากศิลปินโอทอปที่อนุรักษ์และสืบทอดไว้ซึ่งภูมิปัญญาของคนไทยจากรุ่นสู่รุ่น ถ่ายทอดออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณค่า โซนผ้าไทยใส่ให้สนุกที่จัดแสดงผ้าประเภทต่างๆ ที่มีอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด รวมถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทผ้าที่มีดีไซน์ทันสมัยเหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย และการจัดแสดงนิทรรศการเส้นไหมและจำหน่ายเส้นไหม รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายและกิจกรรมจากดาราศิลปินมากมาย

กระทรวงพาณิชย์ หารือภาคเอกชน หาแนวทางช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เชิญภาคเอกชนร่วมหารือ ประกอบด้วย หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เพื่อรับทราบสถานการณ์และทิศทางการค้า โดยกระทรวงพาณิชย์มีนโยบาย บริหารให้เกิดความสมดุล โดยการสร้างดุลยภาพของทุกภาคส่วนทั้งประชาชน ผู้บริโภค เกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ประกอบการภาคธุรกิจ ให้ทุกฝ่ายสามารถดำรงชีวิต ดำเนินธุรกิจไปได้ สร้างผลประโยชน์ที่ได้รับด้วยกันทุกฝ่าย ตลอดจนการเชื่อมโยงภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างโอกาสและขยายช่องทางการตลาดใหม่ๆ ซึ่งการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชน จะสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที

ทั้งนี้ภาคเอกชนได้เสนอให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งรัดเจรจา FTA เพื่อขยายโอกาสการค้าและการลงทุนของไทย รวมทั้งแก้ไขกฏระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ พร้อมยินดีให้ความร่วมมือในการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน หากมีสินค้าใดที่สามารถตรึงราคาได้ จะช่วยตรึงราคาให้นานที่สุด

นายภูมิธรรม กล่าวถึงการลดราคาสินค้าว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในติดตามและวิเคราะห์ว่ามีสินค้ารายการใดที่สามารถลดราคา เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยจะครอบคลุมทั้งหมวดบริการและการค้าออนไลน์ ซึ่งจะแถลงความชัดเจนในวันที่ 2 ตุลาคมนี้

เกษตรกรรม/สิ่งแวดล้อม

สังคม




ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา

ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา

แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว



Source link