ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน …
ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566
ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566
การเมือง/มั่นคง
นายกรัฐมนตรี ยอมรับจากการลงพื้นที่หลายจังหวัด ประชาชนสอบถามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่ในหลายจังหวัด พบว่าประชาชนทวงถามเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ส่งผลเกิดแรงกดดันหรือไม่ ว่า ทุกวันทุกเรื่องเป็นเรื่องที่กดดัน อยากให้ประชาชนได้จริง ซึ่งจากการลงพื้นที่เห็นว่าประชาชนมีความต้องการ รวมถึงจังหวัดอุตรดิตถ์หลายคนได้มาสอบถามเรื่องนี้
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินโครงการ จะโทรสอบถามกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลัง ได้พยายามทำอย่างเต็มที่ ทุกฝ่ายต้องมีการพูดคุยกัน พร้อมยืนยัน กรอบเวลาหรือไทม์ไลน์ในการดำเนินโครงการยังเหมือนเดิม ส่วนถ้าคณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความออกมาในทางลบ ย้ำว่าคงมีการพูดคุยกัน รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ หากดำเนินการได้หรือไม่ได้ ก็มีคำตอบให้กับประชาชน
นายกรัฐมนตรีวิดีโอคอลแสดงความยินดีตัวประกันชาวไทย 17 คนเดินทางกลับไทยวันนี้
เครื่องบินโดยสารสายการบินแอลอัล (EI AI) เที่ยวบินที่ LY 081 นำแรงงานชาวไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วในเวลา 15.00 น. ใช้เวลาในการคัดกรองและตรวจโรคประมาณหนึ่งชั่วโมง ก่อนทยอยเดินออกมาในเวลา 16.12 น.
โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อกล่าวต้อนรับแรงงานงานชาวไทยที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย โดยกล่าวว่าดีใจที่ทุกคนได้เดินทางกลับถึงประเทศไทย ยืนยันว่าประชาชนชาวไทยและรัฐบาลไทยมีความเป็นห่วงแรงงานชาวไทยทุกคนที่ถูกจับเป็นตัวประกันมาโดยตลอดและหน่วยงานทุกภาคส่วน ได้สร้างความร่วมมือกับหลายประเทศ เพื่อนำคนไทยกลับสู่ประเทศมาตลอดและขอให้ช่วยแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ช่วยเหลือคนไทยที่ยังติดค้างอยู่หลังจากนี้ได้
ขณะที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดว่า ขณะนี้มีชาวไทยได้รับการปล่อยตัวแล้วทั้งหมด 19 คน โดยวันนี้มี 17 คนที่เดินทางกลับไทย ส่วนใหญ่มีสุขภาพแข็งแรงและมีกำลังใจที่ดี ไม่ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ส่วนอีก 2 คนสภาพร่างกายค่อนข้างอิดโรยจึงให้พักฟื้นร่างกายที่โรงพยาบาลในอิสราเอลก่อนและจะให้เดินทางกลับประเทศไทยต่อไป
ส่วนคนไทยได้รับการปล่อยตัวเพิ่มเติมอีก 4 คน คาดว่าจะเดินทางกลับไทยได้ในเร็วๆ นี้ ยังคงเหลือตัวประกันอีก 9 คน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ตัวประกันชาวไทยที่เหลือยังอยู่ในพื้นที่เดียวกันหรือไม่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันสนับสนุนและปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จจนกว่าชาวไทยทั้ง 9 รายจะได้รับอิสรภาพและกลับมาสู่ประเทศไทย พร้อมยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินนโยบายทางการทูตมาถูกทางแล้ว ประเทศไทยจึงได้รับความช่วยเหลือจากมิตรประเทศ จนสามารถเจรจาปล่อยตัวประกันชาวไทยออกมาได้จำนวนมาก
ด้านนายอุทัย แสงนวล ตัวแทนแรงงานชาวไทย ได้กล่าวแสดงความเสียใจไปยังชาวไทย 39 รายที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ตะวันออกกลางและได้ขอให้ทุกคนได้ร่วมยืนไว้อาลัยเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นได้กล่าวขอบคุณนายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี และทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมกันช่วยเหลือจนสามารถกลับถึงประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย จากนั้นแรงงานชาวไทยทั้งหมดได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาทันที
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
โฆษกพลังงานชี้ค่าไฟงวดใหม่ มกราคม – เมษายน 2567 จะถูกลงกว่าเดิม
นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีค่าไฟงวดใหม่ ระหว่างเดือนมกราคม – เมษายน 2567 ราคาหน่วยละ 4.68 บาท นั้น ว่า ราคาดังกล่าวเป็นแค่ตัวเลขเสนอแนะ โดยมีการคำนวณเบื้องต้น จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ซึ่งยึดจากตัวแปรหลักคือ การชำระหนี้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ส่วนราคาสุดท้ายอยู่ที่เท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารกระทรวงพลังงาน ภายใต้การกำกับของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ว่าจะสรุปผลอย่างไร
นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ ได้กำชับคณะทำงานหาแนวทางลดภาระค่าไฟให้แก่ประชาชน โดยกำหนดราคาไว้ให้อยู่ที่ 4 บาท และจะพยายามทำตัวเลขลดลงให้ได้มากที่สุด อยู่ที่ประมาณ 4.20 บาท/หน่วย แต่เป็นเพียงลดค่าครองชีพระยะสั้นให้ประชาชนเท่านั้น ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน ยังยืนยันการแก้ไขเชิงโครงสร้าง ก๊าซธรรมชาติ ต้นตอของปัญหาราคาไฟฟ้าและสนับสนุนพลังงานไฟฟ้าสะอาดระยะยาวต่อไป
ส.อ.ท. หวั่นปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำกระทบต้นทุนผลิต พร้อมเสนอแนะภาครัฐยึดหลักการจ่ายค่าจ้างตามทักษะฝีมือ
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 35 ในเดือนพฤศจิกายน 2566 ภายใต้หัวข้อ “ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอย่างไรให้ลูกจ้างและนายจ้างอยู่รอด” พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. มีความกังวลถึงกรณีที่หากภาครัฐมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำรอบใหม่ในอัตราที่สูงเกินไป อีกทั้งการที่ผู้ประกอบการจะต้องรับภาระในการปรับขึ้นค่าจ้างให้กับแรงงานเดิมตามฐานอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ จะสร้างแรงกดดันต่อต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ทำให้ต้องมีการปรับขึ้นราคาสินค้าเพิ่มขึ้นและจะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งส่วนใหญ่มีต้นทุนแรงงานอยู่ที่ร้อยละ 11 – ร้อยละ 20 ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด ดังนั้น ส.อ.ท. จึงเสนอให้ภาครัฐพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรอบใหม่ เพื่อจูงใจให้เกิดการพัฒนาทักษะแรงงานและควรมีมาตรการส่งเสริมกลไก การจ่ายค่าจ้างแรงงานตามทักษะฝีมือ(Pay by Skill) โดยเฉพาะการเร่งรัดให้มีการกำหนดมาตรฐานฝีมือแรงงานให้ครบทุกสาขาอาชีพและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการส่งพนักงานเข้าทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
นอกจากนี้ ภาครัฐควรจะต้องแก้ไขปัญหาปากท้องของแรงงานในระยะยาวควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะการดูแลลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เช่น ลดค่าโดยสารสาธารณะ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า เป็นต้น รวมถึงมีการกำกับดูแลการปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและควบคุมให้มีการปรับราคาสินค้าขึ้น-ลงตามต้นทุนที่แท้จริง
ทั้งนี้ ในอีก 3 ปีข้างหน้า ภาคอุตสาหกรรมยังมีความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาการใช้แรงงานในภาคการผลิตอยู่ แต่จะเริ่มมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโดยการนำเครื่องจักรมาใช้ทดแทนการใช้แรงงานคนมากขึ้น ในอัตราส่วนไม่เกินร้อยละ 20 ของการใช้แรงงานคนในปัจจุบัน
กรมสรรพากร ปรับปรุงหลักเกณฑ์การคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว เริ่มมีผลใช้บังคับ 1 ธันวาคมนี้
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร ได้ปรับปรุงกฎระเบียบการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะเริ่มมีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 ธันวาคม 2566) เป็นต้นไป โดยปรับเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าที่ต้องแสดงต่อศุลกากร จากเดิมตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป เป็น 20,000 บาทขึ้นไป
หลักเกณฑ์ใหม่นี้ จะช่วยลดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องแสดงสินค้าลงจาก 1.7 ล้านรายต่อปี เหลือประมาณ 500,000 รายต่อปี หรือลดจำนวนคิว/การขอตรวจเอกสารที่ต้องตรวจสินค้า จาก 4,800 คนต่อวัน เหลือเพียง 1,400 คนต่อวัน หรือลดลงกว่าร้อยละ 70 รวมทั้งปรับเพิ่มมูลค่าสินค้าที่ต้องนำไปแสดงต่อสรรพากร 9 รายการ ได้แก่ เครื่องประดับ ทองรูปพรรณ นาฬิกา แว่นตา ปากกา สมาร์ทโฟน แล็ปท็อปหรือแท็บเล็ต กระเป๋า เข็มขัด จากเดิมมูลค่าต่อชิ้นตั้งแต่ 1 หมื่นบาทขึ้นไป เป็น 4 หมื่นบาทขึ้นไป และของที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ จากเดิมมูลค่าต่อชิ้นตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป เป็น 1 แสนบาทขึ้นไป จะช่วยลดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องแสดงสินค้าลงจาก 1.2 แสนรายต่อปี เหลือประมาณ 30,000 รายต่อปี หรือลดลงจาก 333 คนต่อวันที่ต้องแสดงสินค้า เหลือเพียง 84 คนต่อวัน หรือลดลงกว่าร้อยละ 75
สำหรับเงื่อนไขการขอคืนภาษีในปัจจุบันนั้น นักท่องเที่ยวต้องมียอดซื้อไม่น้อยกว่า 2,000 บาทต่อร้านต่อวัน และจากการปรับหลักเกณฑ์ข้างต้นนี้ จะช่วยลดขั้นตอนการขอคืนภาษีของนักท่องเที่ยว ที่ซื้อสินค้ามูลค่ารวมไม่ถึง 20,000 บาท สามารถไปขอรับคืนภาษีจากเจ้าหน้าที่สรรพากรได้โดยไม่ต้องผ่านพิธีการทางศุลกากร
ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง พิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและขั้นตอนต่างๆ ในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Refund) ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางออกจากประเทศไทยให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งในบางช่วงเวลาจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่อคิวรอตรวจสินค้าเพื่อขอคืนภาษีเป็นจำนวนมาก หากสามารถลดอุปสรรค ทำให้สามารถคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทย รวมทั้งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย
เกษตรกรรม/สิ่งแวดล้อม
นายกรัฐมนตรี ติดตามความคืบหน้าโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก พัฒนาแหล่งน้ำพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัดอุตรดิตถ์ อาทิ โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โครงการแก้มลิง บึงมาย บึงกะโล่ บึงช่อ บึงหล่ม และโครงการอื่นๆ ณ โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาพบปะพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความสามารถทางด้านการเกษตร พร้อมทั้งได้กล่าวเน้นย้ำในเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่พึงได้รับ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของสภาพอากาศ ซึ่งรัฐบาลจะช่วยดูแลให้ดีขึ้น รวมถึงภาระหนี้สินนอกระบบ รัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแลช่วยเหลือให้พี่น้องปลอดจากการเป็นหนี้นอกระบบ กำกับดูแลสัญญากู้เงินที่ไม่เป็นธรรม ให้กลับเข้าสู่การเป็นหนี้ในระบบถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องพืชผลทางเกษตร การจัดสร้างอ่างเก็บน้ำที่สำคัญในพื้นที่ ป้องกันปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง พร้อมทั้งผลักดันและพัฒนาด่านภูดู่ให้เป็นด่านศุลกากร ให้ขนส่งสินค้าไปยังประเทศจีนและลาวได้อย่างสะดวก พัฒนาระบบเศรษฐกิจให้ประชาชนอยู่ดีกินดี
นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ แก้ปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้งให้กับประชาชน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ติดชายแดน เชื่อมต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการสำคัญในพื้นที่ อาทิ การพัฒนาพื้นที่ด่านชายแดนภูดู่ รวมถึงได้พบปะประชาชนและดูแลเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำน้ำปาด อำเภอฟากท่า โครงการสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาคอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ กับอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “สะพานปากนาย”
นอกจากนี้ ยังมีการติดตามความคืบหน้า การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน ให้ประชาชนในพื้นที่มีสิทธิในที่ดินทำกิน การติดตามโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟู แหล่งน้ำ พร้อมระบบกระจายน้ำ ตำบลฟากท่า อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ก่อนที่จะออกเดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนสิริกิติ์ ว่ามีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนหรือไม่ เพื่อวางแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและการนำน้ำไปใช้ทำการเกษตรของพี่น้องประชาชน
สวทช.ช่วยเกษตรกร ตรวจโรคใบด่างมันสำปะหลังด้วยชุดตรวจ แบบง่าย ทำได้ด้วยตัวเอง
นายถาวร คัดวงษ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า สภาเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิ ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในหลายอำเภอกำลังประสบปัญหาการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลัง โดยเกษตรกรบางส่วนได้มีการเก็บผลผลิตออกจากแปลงและพบการระบาดในช่วงอายุไม่เกินสามเดือนและมีการทำลายมันสำปะหลังที่เกิดโรคแล้วทั้งแปลง
จังหวัดชัยภูมิ ถือเป็นจังหวัดที่มีการผลิตมันสำปะหลัง มากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย จากการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา พบพื้นที่ที่มีการระบาด 6,714 ไร่ ซึ่งอาจประเมินเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 134 ล้านบาท รายงานสถานการณ์ศัตรูพืชไร่ โดยกองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร ฉบับวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ระบุพบการระบาดในพื้นที่ 34 จังหวัด รวม 173,301 ไร่ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคใบด่างมันสำปะหลัง เกษตรกรได้รับคำแนะนำให้เผาทำลายมันสำปะหลังที่ติดเชื้อเพื่อยับยั้งการระบาด
ทั้งนี้ ไบโอเทค สวทช.ได้พัฒนานวัตกรรมชุดตรวจแบบรวดเร็วในรูปแบบ strip test ที่มีหลักการทำงานคล้ายชุดตรวจโควิด-19 ซึ่งมีคุณสมบัติที่ใช้งานง่าย รู้ผลภายใน 15 นาที เพื่อคัดกรองโรคใบด่างมันสำปะหลังและท่อนพันธุ์มันสำปะหลังปลอดโรค นายเกื้อกูล ปิยะจอมขวัญ รองผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) กล่าวว่า เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้อง สามารถใช้ชุดตรวจคัดกรองโรคใบด่างมันสำปะหลังได้ด้วยตัวเอง นับเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการนำท่อนพันธุ์ติดเชื้อไปเพาะปลูกต่อ ช่วยลดความเสียหายรุนแรงของโรคใบด่างต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของประเทศ
ภาคใต้ 9 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ขณะนี้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนบางแห่ง ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยช่วงวันที่ 1-5 ธันวาคมประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ทำให้ต้องระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากช่วง 1-3 วัน บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกักที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างเก็บน้ำและส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา
ทั้งนี้ คณะกรรมการลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง ได้พิจารณาแผนการระบายน้ำเขื่อนบางลางให้เกิดการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยบรรเทาปัญหาด้านอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ปัจจุบัน ด้วยการปรับลดการระบายน้ำเขื่อนบางลางเป็น 4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันจนถึงวันที่ 4 ธันวาคมนี้ เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ หากมีปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่เหนือเขื่อนบางลางและพื้นที่ท้ายน้ำให้กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกันบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
สังคม
เร่งขยายการดำเนินโครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2567 ประเด็นที่ 1 โครงการเฉลิมพระเกียรติ/โครงการพระราชดำริ ที่มุ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2566 กรมอนามัย ร่วมกับกรมการแพทย์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และมูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ดำเนินโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการฟันเทียมและรากฟันเทียม แก้ปัญหาการสูญเสียฟันทั้งปาก หรือเกือบทั้งปากในกลุ่มผู้สูงอายุและก่อนวัยสูงอายุ ผลคือมีผู้ได้รับการใส่ฟันเทียม 53,897 คน และผู้ได้รับบริการฝังรากฟันเทียม 1,668 คน พร้อมตั้งเป้าหมายประจำปี 2567 จะผู้ได้รับบริการใส่ฟันเทียม 72,000 คน และผู้ได้รับบริการฝังรากฟันเทียม 7,200 คน ว่า ในปี 2567 กรมอนามัยได้พัฒนากลไกการให้บริการ โดยประสานให้ทุกจังหวัดคัดกรอง ผู้ที่ไม่มีฟันในปากและฟันเทียมทั้งปากเดิมหลวม เตรียมความพร้อมหน่วยบริการ พัฒนาศักยภาพทันตแพทย์และผู้ช่วยทันตแพทย์ในการจัดบริการ ผลักดันการจัดบริการรากฟันเทียมรองรับฟันเทียมให้เป็นสิทธิประโยชน์ในกลุ่มผู้ใช้สิทธิข้าราชการ และประกันสังคมในอนาคต และสื่อสาร ประชาสัมพันธ์โครงการ รณรงค์ ให้ความรู้แก่ประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ และจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
พร้อมกันนี้ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการรากฟันเทียม รองรับฟันเทียมใน 76 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร กรมอนามัยได้นำเสนอเพื่อพิจารณา สนับสนุนการจัดบริการให้เกิดขึ้นในหน่วยบริการระดับ M2 (ขนาด 120 เตียงขึ้นไป) ขึ้นไปในทุกจังหวัด รวมทั้งติดตาม กำกับ ผ่านการติดตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข กลไกตรวจราชการและคณะกรรมการการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขาสุขภาพช่องปาก เพื่อให้การบริการบรรลุตามเป้าหมายด้วย
วันเอดส์โลก “ถุงยางอนามัย พกกันไว้ ใช้ทุกครั้ง กับทุกคน ทุกช่องทาง”
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกกำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรคเอดส์ ยอมรับและเข้าใจผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกและในปีนี้ได้กำหนดแนวคิดคือ Let Communities Lead มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ในการสนับสนุนให้ชุมชน องค์กรและกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะเยาวชน เป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่กรมควบคุมโรคให้ความสำคัญด้วยสถานการณ์เอชไอวีประเทศไทย ในปี 2565 คาดว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 9,230 คน โดยเป็นกลุ่มอายุ 15-24 ปี 4,379 คน คิดเป็นครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั้งหมด สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย โดยพบว่ากลุ่มอายุ 15-24 ปี มีอัตราการใช้ถุงยางอนามัยครั้งล่าสุดที่มีเพศสัมพันธ์เพียงร้อยละ 80 และใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอทุกครั้งกับแฟนและคนรักไม่ถึงร้อยละ 40
กรมควบคุมโรค ร่วมกับภาคีเครือข่าย สนับสนุนประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้ได้รับบริการด้านการป้องกัน การตรวจและการดูแลรักษาอย่างครอบคลุม ขอเชิญชวนทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ร่วมรณรงค์ใช้ถุงยางอนามัยให้เป็นเรื่องปกติ “ถุงยางอนามัย พกกันไว้ ใช้ทุกครั้ง กับทุกคน ทุกช่องทาง” โดยสามารถรับถุงยางอนามัยได้ฟรีที่หน่วยบริการสุขภาพของรัฐและภาคประชาสังคมทั่วประเทศ และชวนตรวจเอชไอวีให้เป็นเรื่องปกติ ซึ่งคนไทยทุกคนมีสิทธิตรวจเอชไอวี ฟรีปีละ 2 ครั้ง ที่โรงพยาบาลภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติทุกแห่ง
นอกจากนี้ สามารถรับชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองฟรีที่โรงพยาบาล หน่วยบริการสุขภาพของรัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม ตลอดจนร้านขายยาที่ร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบ สปสช. ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังในเมนูกระเป๋าสุขภาพ หากผลตรวจพบติดเชื้อเอชไอวี ควรเข้าสู่ระบบการรักษาทันที รักษาฟรี ทุกสิทธิการรักษา การรักษาเร็วจะช่วยลดโอกาสเจ็บป่วยจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาส ทำให้มีสุขภาพดี ใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ
กทม.ผลิตแรงงานเข้าสู่ตลาด พนักงานขับรถยนต์สามล้อไฟฟ้า เสริมระบบการเดินทางของเมือง
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการพัฒนาทักษะให้แก่แรงงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างกรุงเทพมหานคร และบริษัท มูฟมี ฮีโร่ จำกัด (ภาคเอกชน) โดยมีนายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นางจิรวรรณ สุตสุนทร ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นางสาวดุษฎี สรวงขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการส่งเสริมอาชีพ และผู้บริหารบริษัทภาคเอกชน ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมเปิดตัวหลักสูตรพนักงานขับรถยนต์สามล้อไฟฟ้าในสำนักงานและบริการสาธารณะ ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เพื่อให้การรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและเพื่อการผลักดันให้เกิดการผลิตแรงงานเข้าสู่ตลาดแรงงาน กรุงเทพมหานครร่วมกับภาคเอกชน ได้จัดให้มีการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอาชีพพนักงานขับรถยนต์สามล้อไฟฟ้าในสำนักงานและบริการสาธารณะ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน กรมการขนส่งทางบก และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมพิจารณาและให้ข้อเสนอแนะ ประกอบกับ บริษัท มูฟมี ฮีโร่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการรถสามล้อรับจ้างสาธารณะที่เป็นระบบ EV ได้รับความนิยมในระดับหนึ่ง กำลังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานขับรถ จึงนำไปสู่ความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างอาชีพและส่งเสริมระบบการขนส่งของเมือง
สำหรับผู้ที่สนใจในการเข้ารับการฝึกอาชีพพนักงานขับรถยนต์สามล้อไฟฟ้าในสำนักงานและบริการสาธารณะ สามารถสมัครเรียนได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2566 โดยจะต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และสามารถใช้งาน application พื้นฐานได้อย่างคล่องแคล่ว มีใจรักการบริการ มีความชำนาญในพื้นที่และไม่มีประวัติอาชญากรรม โดยจะมีการสอบสัมภาษณ์ร่วมกันกับบริษัท มูฟมี ฮีโร่ จำกัด ในวันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องเข้ารับการสอนภาคทฤษฎีวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม และการสอนภาคปฏิบัติวันพุธที่ 20 ธันวาคม ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-247-9496
ปฏิบัติการพิเศษ “พญานาคราช” ป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมายทุกประเภท
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษ พญานาคราช ซึ่งจากนี้ชุดปฏิบัติการพิเศษพญานาคราช จะเป็นชุดปฏิบัติการหลักในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าภาคการเกษตรทุกชนิดและสินค้าภาคการเกษตรที่มีการตัดต่อพันธุกรรม (NGO) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและแก้ปัญหาราคาสินค้าภาคการเกษตรตกต่ำ รวมถึงความปลอดภัยทางด้านอาหาร
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบธงประจำหน่วยงานและปล่อยขบวนชุดปฏิบัติการพิเศษออกปฏิบัติการ ได้แก่ ชุดพญานาคราช ชุดฉลามขาว ชุดพญาไทยและชุดสารวัตรเกษตร
สำหรับชุดปฏิบัติพิเศษพญานาคราช เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพไทย สำนักอัยการสูงสุด กรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตร ในการปราบปรามการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ซึ่งต้องมีการรายงานผลการทำงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทุก 15 วัน
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว