ยืนยันคนไทยแจ้งความประสงค์ขอกลับประเทศแล้ว 1,099 คน …

นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานการณ์แรงงานไทยในพื้นที่เหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางล่าสุด ยังคงมีตัวเลขผู้บาดเจ็บรวม 8 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 คน และมีรายงานข้อมูลผู้เสียชีวิตจากนายจ้างและสถานทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟเมื่อคืนนี้ ยืนยันที่ 12 ราย แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิต เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในการติดต่อญาติของผู้เสียชีวิตทราบ

ส่วนการอพยพแรงงานกลับประเทศไทยนั้น เบื้องต้น ข้อมูล ณ วันที่ 8 ตุลาคม มีชาวไทยแจ้งความประสงค์ต้องการกลับประเทศ แล้ว 1,099 คน ไม่ประสงค์กลับไทย 22 คน บางส่วนยังอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ จากจำนวนคนไทยที่อยู่ในประเทศอิสราเอลมีทั้งหมด 30,000 คน และอยู่ในพื้นที่ฉนวนกาซา 5,000 คน ซึ่งการอพยพคนกลับนั้นต้องขึ้นอยู่กับจำนวน และขั้นตอนการนำคนไปยังที่ปลอดภัย รวมถึงประสานงานกับนายจ้างให้เรียบร้อยด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าทางอิสราเอลยังไม่ได้ปิดทำการท่าอากาศยาน ยังคงมีเครื่องบินเดินทางทั้งขาเข้าและขาออกคิดเป็นร้อยละ 50 จากช่วงก่อนเกิดเหตุ

นางกาญจนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีความรุนแรง มีการโจมตีพื้นที่ฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รัฐบาลอิสราเอลยังเดินหน้าขอพื้นที่คืนและให้ความช่วยเหลือตัวประกันผู้ถูกจับกุม รวมทั้งอพยพผู้ที่อยู่ใกล้กับพรมแดนฉนวนกาซาไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้วบางส่วน ซึ่งรวมถึงพื้นที่ที่มีคนไทยอยู่ด้วย แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวนั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบและประสานงานไปยังสถานทูตกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งสามารถประสานงานกับทางปาเลสไตน์ได้ เพื่อให้ความช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยที่ได้รับการปล่อยตัวต่อไป