รวมตำนานผีในมหาวิทยาลัย ขนหัวลุกรับฮาโลวีน เด็กปีหนึ่งรู้หรือยัง? : PPTVHD36
มหาวิทยาลัยในไทย ล้วนก่อตั้งมานานไม่ต่ำกว่า 20 ปี การมีตำนานชวนขนหัวลุกนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเวลาที่ล่วงเลยไป ก็คือประวัติศาสตร์ และช่วงชีวิตที่เคยถูกใช้ในที่แห่งนี้ทั้งนั้น
บางตำนานก็ถูกพิสูจน์โดยรุ่นพี่ ส่งต่อมารุ่นสู่รุ่น บางตำนานเชื่อว่าเป็นเพียงกุศโลบายเท่านั้น แล้วคุณคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่!? ใครเคยสัมผัสเรื่องราวเหล่านี้มาแล้วในรั้วมหาวิทยาลัย อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ
ห้องนี้เต็มแล้ว
คืนหนึ่งในหอพักนิสิต มหาวิทยาลัยติดทะเลแห่งหนึ่ง หน้าประตูห้องทุกห้อง จะมีกระดาษแปะเอาไว้ว่า “ห้องนี้เต็มแล้ว” เพื่อเป็นการไล่แขกที่ไม่ได้รับเชิญ..
ในวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยของทุกปี จะมีธรรมเนียมการวิ่งขึ้นเขาแต่เช้าตรู่ ซึ่งตามตำนานความเชื่อของนิสิตรุ่นต่อรุ่น เชื่อกันว่าคืนก่อนวันคล้ายวันสถาปนาฯ จะเป็นคืนผีดุ ใครที่ยังใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกห้องพักยามค่ำคืน มักจะเจอเรื่องหลอน และอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
แต่มีสิ่งที่หลอนกว่านั้น เพราะหอพักนิสิต มักจะมีหลายเตียง เชื่อกันว่าในคืนนั้น ถ้าห้องไหนยังมีเตียงว่าง จะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมานอนด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลของการติดป้ายหน้าห้องว่า “ห้องนี้เต็มแล้ว” และข้อห้ามคืนผีหลอก ไม่ว่าจะเป็นการห้ามเปิดประตูหากได้ยินเสียงเคาะ ห้ามมีเตียงว่าง ห้ามออกไปไหนคนเดียวตอนกลางคืน คืนนั้นจึงเป็นคืนที่เงียบสงัดและวังเวงที่สุด
ทั้งนี้ นี่เป็นความเชื่อของนิสิตที่เล่าต่อกันมายาวนาน และเชื่อว่าเป็นกุศโลบายให้นิสิตเข้านอนเร็ว เพื่อไปร่วมธรรมเนียมการวิ่งขึ้นเขาตั้งแต่เช้าตรู่นั่นเอง
ตำนานด้ายแดง
ตึกไหนมี “อาจารย์ใหญ่” ตึกนั้นมักมีเรื่องเล่า
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับนักศึกษาปีหนึ่ง ที่เดินเข้าตึกด้วยความไม่รู้ทิศทาง จนต้องเดินเข้าไปถามทางกับ รปภ. ของตึก รปภ. คนนั้นบอกทางให้กับนักศึกษา โดยที่นักศึกษาสังเกตเห็นด้ายสีแดงที่ข้อมือของลุง รปภ. คนนั้นด้วย
หลังจากนั้น นักศึกษากดลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้น 5 ของตึกตามที่ รปภ. บอก แต่เหตุการณ์แปลก ๆ ก็เกิดขึ้นเพราะลิฟต์กลับเปิดที่ชั้น 2 นักศึกษาคนนั้น ก็รู้สึกเอะใจ แต่ไม่รู้ว่าชั้นนั้นเป็นชั้นที่เก็บร่างของอาจารย์ใหญ่เอาไว้
นักศึกษาขึ้นไปถึงชั้น 5 และเข้าเรียนตามปกติ จนถึงเวลาเลิกเรียน หลังลงมาจากตึก นักศึกษาคนนั้นก็ไม่เคยเจอกับ รปภ. อีกเลย ไม่ว่าจะกลับไปเรียนที่ตึกนั้นกี่ครั้งก็ตาม
สุดท้าย ความจริงก็ปรากฎเมื่อรุ่นพี่ของคณะ บอกว่าที่ตึกนั้นไม่เคยมี รปภ. ประจำการ ส่วนด้ายสีแดงนั้น “คนทั่วไปมักจะไม่ใช้ แต่เป็นอาจารย์ใหญ่ต่างหาก!”
ศาลหอแกรนด์
มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง มีเรื่องเล่าว่าเด็กปี 1 มักจะเห็นศาลอยู่หน้าหอพักชื่อแกรนด์ แต่จริง ๆ แล้ว ตรงนั้นไม่มีศาล!
สำหรับเด็กปี 1 ที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย ก็ไม่แปลกที่มักจะไม่รู้เรื่องราวอาถรรพ์ของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ที่นี่ก็เช่นกัน เพราะมีแค่เด็กปี 1 เท่านั้น ที่จะโดนหลอก
ตำนานเล่าว่า ‘ศาล’ ที่ว่านี้ เป็นศาลที่ตั้งอยู่หน้าหอพัก ตรงข้ามมหาวิทยาลัย ศาลนี้มักจะถูกพบเห็นจากรุ่นน้องปี 1 ที่ไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อน ศาลนี้แต่ละคนก็มองเห็นไม่เหมือนกัน บ้างก็ว่าเป็นศาลไม้เก่า ๆ บ้างก็ว่าเป็นศาลปูน
กลายเป็นเรื่องสุดหลอน เพราะมีนักศึกษาหลายคนที่เคยเห็นศาลนั้นมาก่อน แต่หลังจากนั้น ก็ไม่ได้เห็นอีกเลย กลายเป็นเรื่องลึกลับที่หาคำตอบไม่ได้ และคนที่เคยเจอศาล ก็ต้องขนลุกทุกทีที่ได้ยินเรื่องนี้
ตำนานเพลงรักน้อง
มีเพลงหนึ่งเพลงที่ห้ามร้องตอนกลางคืน แต่ถ้าเผลอร้องไปแล้ว ต้องร้องให้จบ ก่อนจะมีใครมาช่วยร้อง..
“เจ้านกน้อยล่องลอยโผบิน จากแผ่นดินทะเลสีคราม..” เพลงนี้ เป็นเพลงสันทนาการของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีเรื่องเล่าว่าเพลงนี้มีความเกี่ยวข้องกับนักศึกษาพยาบาล ที่ถูกครอบครัวบังคับให้เรียนในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ จึงเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เธอกระโดดลงมาจากชั้นดาดฟ้าของหอพัก หลังจากเขียนเนื้อเพลงของเพลงนี้ลงในกระดาษ
ตั้งแต่นั้นมา การร้องเพลงรักน้อง จึงมักจะมีการระลึกถึงนักศึกษาพยาบาลคนนั้น ก่อนจะกลายมาเป็นข้อห้าม! ไม่ว่าจะเป็นการห้ามร้องเพลงนี้ในเวลากลางคืน หรือถ้าเผลอร้องออกมา ก็ต้องร้องต่อให้จบ เพราะเชื่อว่า นักศึกษาพยาบาลคนนั้นจะมาช่วยร้องเพลงให้จบ และหลังจากนั้น มักจะมีคนเห็นนักศึกษาพยาบาลกระโดดลงมา แต่เมื่อไปดูที่จุดเกิดเหตุ ก็ไม่พบอะไรเลย..
ปัจจุบัน เพลงนี้ถูกใช้ในกิจกรรมรับนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัย แม้ว่าปัจจุบันจะมีการตีความหมายของเพลงเปลี่ยนไปจากความหมายเดิมของผู้แต่งก็ตาม
ลิฟต์แดง
ตำนานความหลอน ร่องรอยที่ไม่อาจลบเลือน
ตำนานดังที่ใคร ๆ ก็ต้องเคยได้ยินกันทั้งนั้น เรื่องนี้เกิดจากการต่อสู้ ไล่ล่าของนักศึกษาจนกระทั่งจนมุมที่ไม่สามารถหนีได้ และโดนกระหน่ำยิงภายในลิฟต์ ร่องรอยคราบเลือดแดงฉาดไปทั่วลิฟต์ แม้จะมีการทำความสะอาดยังไงคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ก็ไม่ล้างไม่ออก จึงได้ทำการทาสีลิฟต์ให้เป็นสีแดง หลังจากที่ลิฟต์ได้นำกลับมาใช้ตามปกติ มีเรื่องเล่าต่อมาว่ามีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งมาขึ้นลิฟต์ตามลำพัง แต่เมื่อมองไปที่กระจกกลับพบว่าไม่ได้มีเธออยู่เพียงลำพัง หากแต่มีผู้โดยสารอยู่ด้วยมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายครั้งที่เหล่านักศึกษา อาจารย์ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ได้พบเจอกับอาถรรพ์ลิฟต์แดงตัวนี้ด้วยเช่นกัน
ป๊อก ป๊อก ครืด
หอพักหญิงแห่งนี้ มีเรื่องเล่าที่สยองขวัญและสะเทือนขวัญมากเรื่องหนึ่ง
ตำนานเล่าต่อกันมาว่าสถานที่เกิดเหตุคือ หอหญิง ในสมัยที่ยังพื้นที่หรือทางต่าง ๆ เป็นที่รกร้าง ถนนยังเป็นลูกรัง โดยเรื่องเกิดกับนักศึกษาสาวคู่หนึ่ง อาศัยอยู่ในห้องเป็นรูมเมทกัน อีกคนเกิดมีอาการไข้ จึงไม่ได้ไปกินข้าวตามคำชวนของเพื่อนอีกคน เมื่อรูมเมทเห็นว่าเพื่อนไม่สบาย ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่าเดี๋ยวจะออกไปทานข้าวเองแล้วจะห่อมาฝาก เพื่อนคนที่ไม่สบายจึงได้ฝากซื้อราดหน้าไปด้วย
หลังจากที่เพื่อนออกไป รูมเมทเมทคนที่ไม่สบายก็นั่งอ่านหนังสือต่อ อ่านได้ซักพักก็ไม่ไหวเพราะไข้ขึ้นจึงนอน แต่จังหวะที่กำลังสลึมสลือได้ยินเสียง ป๊อก ป๊อก ป๊อก ค่อย ๆ ดังขึ้นมาใกล้ห้องตัวเองเรื่อย ๆ แล้วเสียงก็เปลี่ยนป็น ครืด ครืด มาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง จึงคิดว่าเพื่อนกลับมาจากกินข้าวแล้ว จึงเดินไปเปิดประตู เห็นเพียงถุงราดหน้าที่ห้อยอยู่ แต่ที่พื้นมีรอยเปียก รุ่งเช้ามีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้วถูกฆ่าข่มขืน ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาคนนั้นเล่า แต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้าง ๆ ห้องยืนยันว่า ในคืนนั้นก็ได้ยินเสียงดังนั้นเหมือนกัน จึงเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ชัดเจนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่คิดไปเอง
คุณยายสปีด
ตำนานความหลอนที่ต้องมีเกือบทุกมหาลัย
ยายสปีด เป็นเรื่องเล่าเหตุการณ์สยองเกิดขึ้นในถนนใกล้มหาวิทยาลัย บ้างก็ว่าลักษณะของยายสปีดเป็นวิญญาณผีแม่ชี บ้างก็ว่าเป็นยายแก่ขาดครึ่งท่อน ผมสีขาว นุ่งขาวห่มขาว ความสยองอยู่ที่ยายจะใช้มือสองข้างคลานไล่รถที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นด้วยความรวดเร็ว
ชีวิตยายสปีดในอดีตเธอมีลูกชายสิ้นคิดคนหนึ่ง นำเอาแม่แท้ ๆ ของตัวเองซึ่งเป็นยายแก่มาปล่อยทิ้งไว้ ก่อนจะขับรถหนีไป ผู้เป็นแม่เมื่อรู้ว่ากำลังจะถูกทอดทิ้งก็พยายามวิ่งตามรถของลูก หวังจะได้อยู่กับลูก แต่กลับเจออุบัติเหตุมีรถสวนทางขับมาชน จนกระทั่งผู้เป็นแม่ปลิวกระเด็นตกไปข้างทาง และเสียชีวิตในที่สุด
นักศึกษาหลายคนต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวเลยว่า ส่วนใหญ่คนที่เจอจะเป็นผู้ชาย เพราะคุณยายกำลังพยายามรอคอยการกลับมาของลูกชายอยู่ และจนกระทั่งวันนี้ เราก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเธอได้พบกับลูกชายที่เป็นแก้วตาดวงใจของเธอแล้วหรือยัง
สะพานขาว
บางคนชอบลองของ บางคนอยากลองดี
เรื่องเกิดในคืนหนึ่ง มีหนุ่มสาวขับรถมอไซค์มาด้วยความเร็ว และมีใครไม่รู้เอาลวดสลิงไปขึงช่วงกลางสะพาน ทำให้คอผู้หญิงคนนั้นขาดแต่ผู้ชายยังไม่รู้ตัวว่าแฟนของตนตายแล้วเพราะตนยังก้มหน้าขับรถแบบคนขับรถเร็วทำให้ไม่โดนสลิง เมื่อขับไปถึงปั้มน้ำมันพอจะลงจากรถจึงเห็นแฟนตัวเองคอขาด จากนั้นก็มีอุบัติเหตุหลายครั้งเกิดขึ้นบนสะพานขาว จึงมีการอันเชิญซินแสมาทำพิธี ซินแสจึงบอกว่าให้ทำการสร้างเสาสะพานขึ้นเพื่อเป็นการไม่เหยียบหลุมศพซึ่งเป็นการลบหลู่ จึงเกิดเป็นตำนานสะพานขาวเกิดขึ้นนั่นเอง
แต่สะพานขาวก็ยังมีความเชื่อหนึ่งเกิดขึ้นด้วย โดยเชื่อกันว่าถ้ากลั้นหายใจระหว่างที่นั่งรถข้ามสะพานไปจนสุดสะพานได้ โดยที่ไม่ผ่อนลมหายใจ จะอธิษฐานขอพรอะไรก็จะได้สมดังปรารถนา
TOP ไลฟ์สไตล์
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด