“วิทยา” เผย การต่อสู้ของ กปปส.ไม่สูญเปล่า หลังทักษิณจะกลับไทยมารับโทษ
“วิทยา” เผย การต่อสู้ของ กปปส.ไม่สูญเปล่า หลังทักษิณจะกลับไทยมารับโทษ
วันที่ 20 สิงหาคม นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็น กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษทางการเมืองจะเดินทางกลับปนะเทศไทย พร้อมยอมรับโทษทุกคดีว่า
“วันที่ 22 สิงหาคม 2566 คุณทักษิณ ชินวัตร ยืนยันเดินทางกลับประเทศไทย เป็นการตัดสินใจกลับมารับโทษตามคำพิพากษาของศาล และต่อสู้คดีที่ยังค้างคาอยู่ ปิดตำนานการนิรโทษกรรมคดีนักการเมืองทุจริต ยุติการล้างผิดคดีโกง
Advertisment
ผมเป็น 1 ในแกนนำ กปปส. ถูกดำเนินคดีพร้อมเพื่อนมิตรที่ร่วมชุมนุมต่อสู้ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาลงโทษแกนนำ 8 คน และเพื่อนมิตรอีกหลายท่าน เช่น คุณสุริยะใส กตะศิลา คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข คุณสำราญ รอดเพชร และท่านอื่นๆ ตามความหนักเบาและพฤติการแห่งคดี คงมีแกนนำคนเดียวที่ศาลพิพากษายกฟ้อง คือ คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ขณะนี้ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์
ผมกับคุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เป็นสองแกนนำ กปปส. ที่เป็น ส.ส. ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมทำพรรคกับท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ตั้งแต่เริ่มต้น
ผมกับคุณเอกนัฏทราบดีตลอดว่า เราเป็นบุคคลที่มีปัญหาในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งหมายถึงไม่ได้คิดเป็นรัฐมนตรีมาตั้งแต่เริ่มต้นทำพรรค จนกว่าคดีของเราจะถึงที่สุด
แต่โทษที่ผมและคุณเอกนัฏได้รับ ไม่ต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง ส.ส. จึงมุ่งมั่นกับเพื่อน ๆ ร่วมอุดมการณ์พรรครวมไทยสร้างชาติ สร้างพรรคการเมืองด้วยอุดมการณ์รักษา ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ด้วยความซื่อสัตย์ต่อประชาชน
เมื่อคุณทักษิณ ชินวัตร ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อรับโทษและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนทุก ๆ คนผมจึงมีแต่ความยินดีที่การต่อสู้ของมวลมหาประชาชนไม่ได้สูญเปล่า
ก่อนนี้ผมได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพี่น้องคนเสื้อแดงหลากหลายท่าน โดยมีความเห็นตรงกันกับแนวทางการเมืองที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ร่วมทำการเมืองที่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน จนมาร่วมกันทำการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติตั้งแต่การเลือกตั้งที่ผ่านมา
ผมกับคุณเอกนัฏก็จะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี จนกว่าคดีการชุมนุมร่วมกับพี่น้อง กปปส. จะถึงที่สุด
ไม่ต้องตีความกฎหมายและวิเคราะห์เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีของผมนะครับ
วิทยา แก้วภราดัย
20 สิงหาคม 2566”