ข่าวสารกรุงเทพฯ

ศรีสุวรรณ จรรยา: จาก “นักร้อง” ตกเป็น “ผู้ถูกร้อง-ผู้ต้องหา” คดีข่มขู่เรียกเงิน


ที่มาของภาพ, Facebook/ศรีสุวรรณ จรรยา

นายศรีสุวรรณ จรรยา เจ้าของฉายา “นักร้อง(เรียน)” ได้รับการประกันตัวแล้ว หลังตกเป็นผู้ต้องหา “คดีข่มขู่เรียกรับเงิน” จากอธิบดีกรมการข้าว

เขาถูกจับคาบ้านพักใน จ.ปทุมธานี วานนี้ (26 ม.ค.) และถูกควบคุมตัวมาสอบสวนตลอดทั้งคืน

นายศรีสุวรรณกับพวกรวม 3 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อหา และยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดรายละ 400,000 บาทเพื่อขอประกันตัว โดยพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านและอนุญาตให้ประกันตัว

ภายหลังได้รับการปล่อยตัว นักร้องเรียนวัย 55 ปี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยยืนยันว่าไม่ได้เรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าว ส่วนที่โยนเงินจำนวน 500,000 บาททิ้งที่ข้างบ้าน เนื่องมาจากเห็นว่ามีใครก็ไม่รู้นำเงินมาแขวนไว้ ภรรยาของตนซึ่งไม่รู้เรื่องได้นำเงินดังกล่าวมาให้ดู เมื่อเห็นว่าไม่ใช่เงินของตัวเองและเข้าข่ายน่าสงสัย จึงนำไปทิ้งเพื่อปัดให้พ้นตัวไปก่อน

นายศรีสุวรรณยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “รู้สึกตกใจ แต่ไม่ทำให้เสียขวัญ” และอ้างว่าคดีในวันนี้มาจากผู้เสียผลประโยชน์ หนึ่งในนั้นคือผู้เสียหายในคดีนี้ที่ถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น ทำให้เจ้าตัวอาจเกิดความหวาดวิตก พร้อมยืนยันว่ามีข้อมูลพยานหลักฐานทุกอย่างที่สามารถหักล้างทุกอย่างในคดีได้

“การทำให้ศรีสุวรรณล้มลงได้ ก็ทำให้คนเหล่านี้ผยองขึ้น ผมเองทำใจได้มาโดยตลอด ครั้งนี้ผมก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” นายศรีสุวรรณกล่าว

ใครคือผู้ร่วมขบวนการ ถูกตั้งข้อหาอะไรบ้าง

คดีนี้ ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 3 คน ตามที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) รวบรวมพยานหลักฐานไป ประกอบด้วย

  • นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ และอดีตคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ถูกออกหมายจับในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับทรัพย์หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
  • นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ถูกออกหมายจับในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับทรัพย์หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด
  • น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.อุตรดิตถ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ถูกออกหมายจับในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับทรัพย์หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด

รวบศรีสุวรรณคาบ้านพัก

การบุกรวบตัวนายศรีสุวรรณได้รับการเปิดเผยในเวลา 15.00 น. ของวันที่ 26 ม.ค. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำหมายเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย 3 จุดในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เพื่อจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาขบวนการ “นักร้อง” ข่มขู่เรียกเงินจากเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียน

ปฏิบัติการ 3 ประสาน เป็นผลสืบเนื่องจากกรณีที่ บก.ปปป. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าถูกนายศรีสุวรรณกับพวก ร่วมกันข่มขู่เรียกเงิน 3 ล้านบาท ก่อนเจรจาต่อรองเหลือ 1.5 ล้านบาท แลกกับการยุติการร้องเรียนโครงการสนับสนุนลดต้นทุนผลิตด้านการปลูกข้าวและโครงการปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าว โดยอ้างว่าพบข้อพิรุธในโครงการที่ส่อไปในทางทุจริต

อธิบดีกรมการข้าวระบุกับตำรวจ บก.ปปป. ว่า ที่ผ่านมาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต แต่เกรงว่าหากถูกร้องเรียนโจมตีบ่อยครั้งจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงยอมจ่ายเงินก้อนแรก 1.4 แสนบาทให้ โดยนายณัฏฐกิตติ์ได้แอบถ่ายคลิปวิดีโอระหว่างส่งมอบเงินไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำมามอบให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ตรวจสอบข้อเท็จจริง จนพบหลักฐานผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจริง

ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางออกหมายจับ 3 ผู้ต้องหา จากนั้นได้วางแผนให้ผู้เสียหายส่งมอบเงินงวดที่ 2 จำนวน 5 แสนบาทให้ผู้ต้องหา

เป้าหมายสำคัญในปฏิบัติการครั้งนี้คือ บ้านพักของนายศรีสุวรรณภายในหมู่บ้านพฤกษา 17 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังจากผู้เสียหายส่งตัวแทนนำเงิน 5 แสนบาทไปส่งมอบให้กับภรรยาของนายศรีสุวรรณ ต่อมามีการหยิบซองเงินเข้าไปภายในบ้าน ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม แสดงหมายจับให้รับทราบ และคุมตัวนายศรีสุวรรณให้พาตรวจค้นหาพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติมภายในบ้าน

จากนั้นตำรวจ บก.ปปป. ได้คุมตัวนายศรีสุวรรณและภรรยาไปสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยนายศรีสุวรรณตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงสั้น ๆว่าถูกกลั่นแกล้ง ยืนยันไม่ได้รับเงิน และ “ขอให้เชื่อมั่นในตัวศรีสุวรรณ”

คุมตัว เจ๋ง-ดอกจิก จากทำเนียบฯ

เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต เข้าควบคุมตัวนายยศวริศ และ น.ส.พิมณัฏฐา หลังมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการข่มขู่เรียกรับเงิน เพื่อไปทำบันทึกการจับกุมที่ สน.ดุสิต ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีที่ บก.ปปป. ต่อไป

นายยศวริศบอกผู้สื่อข่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้เรื่องอะไร เพิ่งรู้เรื่องจากตำรวจ “ผมมีหน้าที่ประสานให้คุณศรีสุวรรณเฉย ๆ” เรื่องนี้ต้องคุยกัน ไม่เป็นไร ยืนยันว่าชี้แจงได้

สำหรับ เจ๋ง-ดอกจิก เป็นอดีตคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

ส่วน น.ส.พิมณัฏฐา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยโชว์คำสั่งรองนายกฯ พีระพันธ์แต่งตั้งเป็นคณะทำงานเขตราชการที่ 11 เพิ่มเติม ลงวันที่ 26 ม.ค. ทั้งนี้ ได้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเข้าไปคอมเมนท์สอบถามว่า เรื่องอธิบดีกรมการข้าวเป็นมาอย่างไร อธิบายด้วยค่ะ น.ส.พิมณัฏฐาตอบกลับว่า “กำลังสู้คดีกันค่ะ” ก่อนที่ในเวลาต่อมา โพสต์นี้จะถูกลบออกไป

พฤติกรรมของกลุ่มนักร้อง

ค่ำวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ตั้งโต๊ะแถลงสรุปผลการจับกุม โดยใช้เวลารวบรวมหลักฐานมานานกว่า 4 เดือนนับจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากอธิบดีกรมการข้าวและภรรยา ก่อนนำไปสู่การจับกุมในครั้งนี้

สำหรับพฤติกรรมของกลุ่ม “นักร้อง(เรียน)” สรุปได้ ดังนี้

  • ปลายปี 2566 ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในลักษณะเตรียมเปิดโปงตรวจสอบการทุจริตงบประมาณภายในกรมการข้าว
  • จากนั้น นัดหมายเจรจากับอธิบดีกรมการข้าว ก่อนยื่นข้อเสนอเรียกเงิน 3 ล้านบาท เพื่อแลกกับการยุติการร้องเรียน แม้ผู้เสียหายมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทุจริต แต่ผู้ต้องหายื่นเรื่องร้องเรียนตามหน่วยงานต่าง ๆ และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในลักษณะสร้างความเสียหาย จึงยอมจ่ายเงินโดยต่อรองเหลือ 1.5 ล้านบาท
  • นัดส่งมอบเงินงวดแรก 1.4 แสนบาท ที่บ้านของนายศรีสุวรรณ ทั้งนี้ ผู้เสียหายแอบถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน
  • ต้นเดือน ม.ค. ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนต่อ บก.ปปป. จนนำมาสู่การซ้อนแผน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า การสืบสวนขณะนี้ยังไม่พบว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง แต่พบว่ามีบัญชีม้า อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม เชื่อว่ามีผู้ช่วยเหลือในการรับเงินและผู้ต้องหายังอ้างไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณปฏิเสธข้อกล่าวหา อ้างว่ามีคนนำเงินมาให้ แต่ตนเองไม่ได้เป็นผู้เรียกรับ

“ส่วนแผนการจับกุม หลังผู้เสียหายส่งมอบเงินด้วยการแขวนถุงใส่เงิน 5 แสนบาทไว้หน้าบ้าน ตำรวจยังเฝ้านานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนนำหมายค้นเข้าบ้าน พบมีผู้วิ่งหลบหนีไปที่หลังบ้าน ส่วนนายศรีสุวรรณอยู่ในบ้าน พอถามว่าเงินอยู่ที่ใด เจ้าตัวพาเจ้าหน้าที่ไปหยิบเงินเอง ส่วนถุงใส่เงินไปพบว่าถูกทิ้งอยู่ข้างบ้าน ยืนยันว่าที่บ้านนายศรีสุวรรณ มีกล้องวงจรปิดทั้งหลัง เจ้าตัวรู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด” พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว

ด้านนายนิวัติไชยกล่าวว่า นายยศวริศ ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แม้ไม่ใช่ผู้มีตำแหน่งทางการเมือง แต่สามารถดำเนินคดีได้ และหากศาลสั่งฟ้องก็ต้องพักการปฏิบัติหน้าที่ก่อน พร้อมระบุว่า “ผู้ต้องหาหลักคือเจ้าพนักงาน ส่วนพลเรือนที่ร่วมทำผิดคือผู้สนับสนุนเท่านั้น”

ปฏิกิริยาจากแกนนำ รทสช.

ที่มาของภาพ, กองโฆษก พรรครวมไทยสร้างชาติ

คำบรรยายภาพ,

เจ๋ง ดอกจิก (ซ้ายมือ) อดีตแนวร่วม นปช. สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีเลขาธิการพรรค รทสช. ให้การต้อนรับ เมื่อ 10 ก.พ. 2566

การมีชื่อสมาชิกพรรค รทสช. เข้าไปพัวพันกับขบวนการข่มขู่เรียกรับเงิน ทำให้แกนนำพรรคไม่อาจนิ่งเฉยได้

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวว่า หากนายยศวริศมีความผิดต้องให้ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค “เราไม่เอาอยู่แล้วถ้ามีพฤติการณ์ทำให้เสื่อมเสีย เรามีสิทธิให้เขาออก”

“เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เขาไปทำอะไร และทำจริงแค่ไหนเราไม่ทราบ เขาไปเกี่ยวกับคุณศรีสุวรรณ ผมไม่รู้เลย ก็ต้องให้เขาไปว่ากันเอง แต่ผมไม่รู้เรื่อง” หัวหน้าพรรค รทสช. กล่าว

รองนายกฯ บอกด้วยว่า นายยศวริศไม่ได้เป็นคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2566 แล้ว

เช่นเดียวกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. ที่ชี้แจงผ่านเอกซ์ (ทวิตเตอร์เดิม) ว่า พรรคไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับพฤติกรรมที่ถูกกล่าวหา ขอให้พิจารณาไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเจ้าตัวมีสิทธิจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง

“กรณีที่มีคำแต่งตั้ง คุณเจ๋ง เป็นคณะทำงานนั้น ได้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2566 แล้ว ส่วนของ น.ส.พิมณัฏฐา ก็ถูกยกเลิกทันทีที่ทราบข่าว” นายเอกนัฏระบุ

เลขาธิการพรรค รทสช. กล่าวด้วยว่า หากสมาชิกพรรคคนไหนไปกระทำความผิด มีหลักฐานชัดเจน กรรมการบริหารพรรคจะขับออกจากสมาชิกตามข้อบังคับพรรค ซึ่งกรณีนี้จะนำเข้าพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) รอบต่อไป



Source link