ข่าวสารกรุงเทพฯ

ศาลยกฟ้องคดีทุจริตสหกรณ์ครูที่ขอนแก่น – สำนักข่าวไทย อสมท


ขอนแก่น 29 ก.ย. – ศาลจังหวัดขอนแก่น ยกฟ้อง 3 อดีตคณะกรรมการ และ 1 เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น คดีร่วมกันยักยอกเงินกว่า 431 ล้านบาท ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม

คดีนี้ พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น โจทก์ และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด โจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายนพรัตน์, นายสมศักดิ์, นายนิวัฒน์ อดีตกรรมการบริหารฯ และนางวราพร เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น เป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับ ฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสารสิทธิหรือสมุดคู่ฝาก และใช้เอกสารสิทธิปลอม หลังร่วมกับนายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย จำเลยที่แยกฟ้องอีกคดี ยักยอกเงินกว่า 431 ล้านบาท ระหว่างปี 2554-2561 โดยจำเลยทั้ง 4 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้วเห็นว่า โจทก์ร่วมมีมติให้นายเอกราช เป็นผู้แทนในการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อปี 2553 ในการถอนเงินจากบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ไม่ปรากฏลายมือชื่อของจำเลยที่ 1-3 ที่เขียนด้วยตัวเอง ร่วมกับนายเอกราช เมื่อถอนแล้ว ไม่มีการโอนเงินให้จำเลยที่ 1-3 มีเพียงการโอนเข้าบัญชีนายเอกราช ขณะที่จำเลยที่ 4 คือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี เปิดบัญชีตามคำสั่งของนายเอกราช และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินดังกล่าว ซึ่งหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วม ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดฐานยักยอก จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยทั้ง 4

ส่วนฐานปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม เมื่อจำเลยไม่ได้ร่วมกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์ จึงไม่มีเหตุจูงใจให้ปลอม เพื่อปกปิดการกระทำความผิด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง

นายนิวัฒน์ อดีตกรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำเลยที่ 3 เผยว่า รู้สึกดีใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก ก่อนหน้านี้นอนไม่หลับ แม้จะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเองมาตลอด แต่ก็คิดมากตามธรรมดาของคนมีคดีความ ขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม และไม่รู้สึกกังวล ถ้าโจทก์จะอุทธรณ์คดี

ส่วนนายเอกราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ให้การรับสารภาพ และเซ็นรับสภาพหนี้ โดยจะชำระเงินคืนอย่างน้อยปีละ 50 ล้านบาท และจะชำระให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี

“ร.อ.ธรรมนัส” ระบุทำแอปพลิเคชันตรวจสอบสหกรณ์ ป้องกันทุจริต

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ขณะนี้ทางกรมฯ มีนโยบายการป้องกันปราบปรามการทุจริตในสหกรณ์ โดยมีแอปพลิเคชันให้บริการสมาชิกใช้ตรวจสอบสถานะทางบัญชีของตนเอง ตรวจสอบสถานะของสหกรณ์ รวมถึงการจัดตั้งสหกรณ์อย่างมีคุณภาพ และการพัฒนาบุคลากร เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ ให้มีความรู้ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ สามารถเข้าไปดำเนินงานร่วมกับสหกรณ์ที่รับผิดชอบได้ มีธรรมาภิบาล ยกระดับความเป็นอยู่ของสมาชิกสหกรณ์ให้ดีขึ้น. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม





Source link