“สนธิ” รับได้ หาก “ทักษิณ” กลับมาติดคุก-ประกาศความภักดีไม่แก้ ม.112 : PPTVHD36
ผมถือว่าโอเค! “สนธิ ลิ้มทองกุล” รับได้ หาก “ทักษิณ” ยอมกลับมาติดคุก-ประกาศความภักดีสถาบัน ไม่แก้ ม.112 หากเข้าเงื่อนไขไม่มีเหตุจะไปทะเลาะกันแล้ว
วันที่ 28 กรกฎาคม นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพีนธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “sondhitalk” เรื่อง “ดีเดย์ 10 สิงหา “ทักษิณ”และหมากเกมการเมืองไทย” โดยระบุตอนหนึ่งว่า การที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า พ่อจะกลับมาวันที่ 10 สิงหาคม ที่สนามบินดอนเมือง ทั้งนี้การกลับของนายทักษิณครั้งนี้ตนไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่าการกัลบไทยครั้งนี้นายทักษิณพูดอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2565 หลายครั้งแล้ว
“อุ๊งอิ๊งค์”เผย “ทักษิณ” กลับไทย 10 ส.ค.นี้ ที่สนามบินดอนเมือง
แฉไทม์ไลน์ “ทักษิณ” เชื่อมโยงการเมือง ก่อนมีข่าวกลับไทย!
แฉซูเปอร์ดีล-แยกข้าวต้มมัด ตั้งรัฐบาล 279 เสียง แลก “ทักษิณ” พ้นคุก!
ทั้งนี้มีคนถามตนว่าตนรู้สึกอย่างไร คนที่เป็นพันธมิตรจะรู้อยู่แล้วว่า ที่เราสู้กับนายทักษิณในอดีตนั้นสู้เรื่องคอร์รัปชั่น และอีกเรื่องคือในยุคตั้งพรรคเพื่อไทย ถูกแวดล้อมและมีพฤติกรรมที่น่าสนสัยว่าจะมีส่วนร่วมในการที่จะไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ กระทั่งล่าสุดพรรคเพื่อไทยก็มีนโยบายชัดเจนว่าจะจงรักภักดีกับสถาบันและไม่แก้มาตรา 112 อย่างเด็ดขาด ซึ่งตนถือว่าเป็นปรากฎการณ์ใหม่ ซึ่งตนคิดว่านายทักษิณอยุ่ต่างประเทศ 17 ปีไม่มีความสุขเท่ากับอยู่ใกล้ลูกหลาน
ทั้งนี้การที่นายทักษิณบอกว่าจะกลับมาติดคุก แสดงว่านายทักษิณจะกลับมารับกระบวนการยุติธรรม และรับผิดที่ถูกพิพากษาจำคุก หากวางใจเป็นกลาง ว่าการที่นายทักษิณจะมารับกระบวนการยุติธรรม และประกาศชัดเจนว่ายังคงจงรักภักดีต่อสถาบัน
“ผมถือว่าคุณทักษิณถ้ากลับมาติดคุกจริง ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย ยอมรับคำพิพากษาของศาลที่ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้พระปรมาภิไธย ผมถือว่าโอเคแล้ว และเรื่องที่สองคุณทักษิณแสดงเจตนารมณ์จุดยืนทมี่ชัดเจน โดยผ่านพรรคเพื่อไทยว่ายังคงจงรักภักดีกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะไม่มีทางแก้มาตรา 112 ถ้าครบสองเรื่องนี้ เราไม่มีประเด็นอะไรจะไปทะเลาะกับสายคุณทักษิณอีกต่อไป”
ส่วนการมีข่าวลือว่านายทักษิณได้คุยและเคลียร์กับคนชื่อสนธิแล้วค่อยกลับเมืองไทยนั้น ตนยืนยันว่าไม่ใช่ตน ตนไม่คยคุยกัน เท่าที่ตนทราบข้อมูลคนชื่อสนธิที่ว่านั้นคือ พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน