ข่าวสารกรุงเทพฯ

อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ ฟาดพรรคการเมืองดัง ก้าวไม่พ้น ไปไกลแค่”ใต้สะดือ”




เมื่อวันที่ 25 ต.ค.66 น.ส.ณัฐวรินธร บวรภัควุฒิสิริ อดีต ผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “อาจารย์อิ๊ก” โดยระบุข้อความว่า ก่อนหน้านี้สมาชิกบางคนทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ จนต้องโดนคดี แต่ก็ปิดตาประชาชนจนได้รับเลือกเข้ามา พอมาวันนี้สงสัยจะถือพวกมากลากไป ก่อเหตุฉาวโฉ่ ไม่ยำเกรงกฎหมาย พอได้ตำแหน่ง มีคนนับหน้าถือตา มีชื่อพรรคโก้ ๆ ไกล ๆ เอาไว้ประดับบารมี ก็ดีแต่ข่มเหงจิตใจคนอื่น ถ้าไม่ใช้กำลังกายทำร้ายตบตีเมียตัวเอง ก็เทียวไปลับ ลวง พราง บังคับข่มขืนจิตใจ ล่อลวงหญิงอื่น

ขอยกเนื้อความบางส่วนบางตอนของหญิงสาวผู้เสียหายที่เปิดเผยทางสื่อสาธารณะ Nation online เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 มาให้เพื่อน ๆ ได้ใช้วิจารณญาณร่วมกันตรวจสอบนะคะ “นางสาวหนึ่ง กล่าวว่า…พฤติกรรมมีตีสนิท แตะเนื้อต้องตัว ทำให้เชื่อใจ ชวนไปเที่ยวกลางคืน ชวนให้ดื่ม และฉวยโอกาสเมื่อไม่มีสติในการคุกคามทางเพศ ขอมีเพศสัมพันธ์อีกหลายครั้ง…” สั่งสอนให้คนอื่นเคารพสิทธิเสรีภาพ

ขณะที่ตัวเองจ้องแต่จะรุกล้ำเสรีภาพทางเพศในร่างกายผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกชอบล่วงล้ำทางเพศกับหญิงอื่น คนพวกนี้ไม่รู้จักกระตุกจิตสำนึก เอาแต่จะกระตุกอย่างอื่น “นางสาวสอง กล่าวว่า…หลังจากเลือกตั้งชนะ ส.ส.ก็ชวนไปทำงานเป็นผู้ช่วย ส.ส.ขอไปส่งที่บ้าน และเริ่มบ่อยขึ้น มีการแตะเนื้อต้องตัว จับหัว จับไหล่ มานวดให้ จับแขนถามเรื่องส่วนตัว แล้วก็จะชวนไปโน่นไปนี่สองต่อสอง…โดยทำแบบนี้กับน้องในทีมอีก 2 คน น้องในทีมอายุ 20-21 น้องกลัวมาก” สิ่งที่ตกใจที่สุดก็ตรงนี้แหละค่ะ “น้องในทีมอายุ 20-21 !!”

นี่หรือคือพฤติกรรมของคนเป็น ส.ส.หน้าซื่อใจคด พูดปดไม่อายปาก ก่อเหตุไม่เว้นวัน ตัวเองผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ แต่ลับหลังก็คุกคามย่ำยีบัดสีบัดเถลิงกันเหิมเกริม “นางสาวสาม กล่าวว่า…เข้ามาทำงานได้ประมาณเดือนเศษ เริ่มรู้สึกผิดปกติกับ ส.ส. จากคำพูดที่จี้ถามตลอดว่ามีแฟนหรือยัง เราบอกว่ามีคนคุย แต่เขาก็ยังบอกว่าก็ยังโสดอยู่สิ ถามตลอด บางครั้งก็มีการถึงเนื้อตัว ชวนไปไหนมาไหนบ้าง…” นี่แค่ส่วนหนึ่งนะคะที่ผู้เสียหายกล้าออกมาเปิดเผยเพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ น่ากลัวจะมีอีกหลายกรณีที่ผู้เสียหายถูกปิดปาก ข่มขู่ ข่มเหง อาศัยอำนาจบารมีสมัครพรรคพวกกดดันคุกคาม

ร้อนจนถึงขนาด “ผู้มากบารมีหลังฉาก” ที่ก้าวออกไปตั้งคณะทำงานการเมืองแถวหน้า ยังต้อง “แบกหน้า” ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย แต่แทนที่จะ “ยอมรับ” กลับผลักหลังน้อง ๆ โฆษกพรรคกับทนายความหญิง มารับบทนายแบกนางแบก แม้ว่าถึงตอนนี้ โฆษกพรรค และ ทนายความ ในฐานะกรรมการวินัยพรรคจะได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงความคืบหน้าการสอบสวนทางวินัย ซึ่งก็อย่างที่รู้ ๆ กัน ก็ไม่มีความคืบหน้าและไม่ได้เกิดความชัดเจนใด ๆ ต่อกรณีดังกล่าว สงสัยคงจะใช้วิธีปล่อยให้เรื่องเงียบไปเอง แล้วไปจุดประเด็นเล่นข่าวถล่มรัฐบาลอย่างที่ถนัดมือ นี่ยังไม่นับกรณีทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวที่ถือเป็น “พฤติกรรมลายเซ็น” ของคนพรรคนี้ ที่ล่าสุดก็ผลักหลังนาย ดาราท่านหนึ่ง ในฐานะรองโฆษกพรรคออกมารับหน้า ซึ่งก็ได้แต่แก้ผ้าเอาหน้ารอด บอกว่า ผู้ก่อเหตุแค่สวมเสื้อพรรค ไม่ใช่คณะทำงาน ก็เข้าลักษณะ “ตัดหางปล่อยวัด”

“พอจะตรวจสอบคนอื่น ก็ออกมาแถลงข่าวใหญ่โต อาศัยวาทกรรมไปปราศรัยในสภา ใช้วาทศิลป์พูดจาให้ร้ายซัดทอดเปลี่ยนคนถูกให้กลายเป็นผิด พอบทตัวเองทำผิด ก็ไปตรวจสอบกันเป็นการภายใน ปิดห้องลับ แล้วมาแถลงพอเป็นพีรีตรอง แสร้งทำให้ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ” แต่ในความเป็นจริง…จากสถิติคดีอาญาที่สมาชิกพรรคนี้ก่อเหตุไปกว่า 20 คดี โดยมีผู้ก่อเหตุมากกว่า20ราย ทุกรายล้วนเป็นสมาชิกพรรค บางรายมีชื่อเสียงเป็นแกนนำ ทำทีเป็นช่วยเหลือคนอื่น แต่เนื้อแท้ล้วนติดคดีก่ออาชญากรรมทั้งนั้น

น่าสงสัยจริง ๆ ประชาธิปไตยที่ควรจะก้าวไปได้ไกลตามคอนเซปต์พรรค ทำไม วนอยู่แค่ “ใต้สะดือ” ไม่ยำเกรงกฎหมาย ก็ขอให้เกรงใจประชาชนบ้างนะคะ จุดยืนของอิ๊กเหมือนเดิมค่ะ ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ควรมีใครต้องถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ควรต้องถูกคุกคามทางเพศ อิ๊กจะขอร่วมต่อสู้เพื่อให้ ‘ความรุนแรงต่อสตรี’หมดไป.



Source link