เยียวยาผู้เสียหายถูกสลับข้อมูล กลายเป็นผู้ต้องหา – สำนักข่าวไทย อสมท
อยุธยา 21 ต.ค.-กรณีคดีตำรวจคีย์ข้อมูลเลขบัตรประชาชนผิด จากผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหา จนถูกไล่ออกจากงาน ล่าสุดผกก.สภ.บางปะอิน พร้อมรับรองประวัติให้กับผู้เสียหาย
ที่สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมนายปัญญา ผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.อ.พัทธนันท์ ทรงสมถวิล ผกก.สภ.บางปะอิน เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่นายปัญญา ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ทั้งที่ตัวเองเป็นผู้เสียหาย โดยชื่อไปสลับกับผู้ต้องหาในคดีที่เคยแจ้งความไว้ เป็นสาเหตุให้ถูกไล่ออกจากงาน เพราะมีประวัติติดตัว
ด้าน พ.ต.อ.พัทธนันท์ ระบุว่าเบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว พบว่าตำรวจที่ทำคดีได้ย้ายออกจาก สภ.บางปะอินไปแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์เกิดมาตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งยอมรับ สาเหตุเกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ ที่คีย์ข้อมูลหลาย หน้าซ้ำกัน พบความผิดพลาดเพียงจุดเดียว ในการเอาหมายเลขประจำตัวผู้เสียหายไปใส่ในชื่อผู้ต้องหา จากการตรวจสอบประวัติอาชญากร ไม่พบการกระทำความผิดเป็นผู้บริสุทธิ์ และเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ตนเองพร้อมไปรับรองประวัติให้กับนายปัญญาที่จะไปสมัครงาน
สำหรับคดีนี้ เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน นายปัญญา ผู้เสียหายได้ไปขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ หลังต้องตกเป็นผู้ต้องหา สลับกับผู้ต้องหาตัวจริง ในคดีลักทรัพย์ที่ตนเองเคยแจ้งความไว้ ที่ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเมื่อปี 64 ปัญญา ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของบริษัทให้ไปแจ้งความที่ สภ.บางปะอิน เอาผิดกับนักศึกษาฝึกงานที่ขโมยพีซียูของบริษัทไป 23 ชิ้น ศาลตัดสิน รอลงอาญา 2 ปี ชดเชยค่าเสียหายในทรัพย์ที่เอาไป ต่อมาตนเองได้เปลี่ยนงานใหม่ และมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ปรากฎว่ากลับมีประวัติเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ตนเองตกใจมาก ได้ปฏิเสธและยืนยันว่าไม่เคยก่อคดีอะไรมาก่อน แต่เมื่อตรวจไอดีพบว่า เลข 13 หลักของผู้ต้องหารายนี้ ตรงกับบัตรประชาชนของตนเอง นายปัญญาได้ไปติดต่อที่สภ.บางปะอิน ปรากฎว่า ทางตำรวจคีย์ใส่เลข 13 หลักในบัตรประชาชนของตนเอง สลับกับนักศึกษาฝึกงานที่เป็นขโมย ทำให้ตนเองต้องกลายมาเป็นผู้ต้องหาแทน ซึ่งตำรวจได้ขอโทษ และบอกว่าจะแก้ไขโดยการลบเลข 13 หลักออกจากประวัติให้ แต่สุดท้ายยังคงมีประวัติติดตัว จนตนเองถูกไล่ออกจากงาน ไปสมัครงานที่ไหนไม่ได้ จึงตัดสินใจเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดดังกล่าว.–สำนักข่าวไทย