“เศรษฐา” นายกฯ 60 วัน ลดค่าไฟ หั่นราคาน้ำมัน ลุยไฟแจกเงินดิจิตัล
“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤจิกายน 2566 ตอน “เศรษฐา” นายกฯ 60 วัน ลดค่าไฟ หั่นราคาน้ำมัน ลุยไฟแจกเงินดิจิตัล
เจอแนวร่วมฝ่ายต้าน ทั้งขาประจำ ทั้งผสมโรง ทำเอารัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน เสียทรงไปไม่น้อย กับโคตรมหาโปรเจกต์ แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท
ยิ่งแจงยิ่งยุ่ง ตกอยู่ในสภาวะวัวพันหลัก จนนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ต้องตัดบท ต่อไปนี้จะเป็นผู้ให้ข้อมูลเรื่องโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เพียงผู้เดียว เพื่อไม่ให้ข้อมูลสับสน
เรื่องของเรื่อง ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงการมันยุ่งเหยิง เพราะการให้ข้อมูลของฝ่ายรัฐบาล ตั้งแต่รัฐมนตรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตลอดจน ส.ส. ไปกันคนละทิศละทาง แบบว่า หัวไปทาง หางไปทาง
คนหนึ่งพูดแบบหนึ่ง อีกคนพูดแบบหนึ่ง เกิดประเด็นใหม่อยู่รายวัน เข้าทางฝ่ายต้าน มันเลยต้องตัดบท ให้จบที่คนๆ เดียวพอ
ถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง เพราะหลังจาก เศรษฐา ประกาศิต ดึงอำนาจให้ข้อมูลมาอยู่ที่ตัวเอง เสียงวิจารณ์โครงการดิจิทัลวอลเล็อต 1 หมื่นบาท ก็เริ่มซาไป เพราะไม่มีประเด็นใหม่ให้ตั้งคำถาม
แล้วก็เป็นจังหวะที่รัฐบาลฉวยจังหวะเบี่ยงเบนความสนใจไปสู่เรื่องใหม่ที่อยากให้เป็นประเด็น ตามข่าวที่ เศรษฐา สั่งกระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน สำนักงาน ก.พ. สำนักงานเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ไปศึกษาแนวทางขึ้นเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมเดดไลน์ให้รายงานกลับเข้าคณะรัฐมนตรีภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ต้องบอกว่า นี่เป็นทางของยี่ห้อพรรคเพื่อไทย งานถนัดที่กระชากใจคนรากหญ้ามาตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทย กับการขึ้นค่าแรง ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ
โดยเฉพาะเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ที่ถูกดันโดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนสร้างความฮือฮา
เรื่องปากท้อง เรื่องเอาใจคนรากหญ้า เป็นเรื่องใกล้ตัวที่พรรคเพื่อไทยช่ำชอง
เพียงแต่ตอนนี้มันยังทำได้เพียงแอ็กชั่น เพราะการขยับเงินเดือนข้าราชการต้องใช้งบประมาณมหาศาล และเป็นงบผูกพันต่อเนื่อง ในขณะที่ปัจจุบันยังใช้งบประมาณปีเก่าอยู่
แต่อย่างน้อยมันก็ดึงดูดสร้างความสนใจ เพราะข้าราชการในประเทศนี้มีจำนวนมาก ย่อมอยากได้อยู่แล้ว หลังขึ้นเงินเดือนครั้งสุดท้ายคือ 9 ปีที่แล้ว ตอนยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เวอร์ชั่นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอนปี 2557
ดึงข้าราชการเป็นพวก เป็นแนวร่วม ถือเป็นสิ่งที่ล้ำลึก
ขณะที่ แนวต้านเรื่องนี้ก็ไม่เยอะมาก เพียงแต่จะขึ้นแบบตู้มเดียวจบคงไม่ได้ เพราะใช้งบประมาณมหาศาล หากเจาะให้ตรงกลุ่ม ต้องมุ่งไปที่ข้าราชการชั้นผู้น้อยที่มีปัญหาเรื่องค่าครองชีพและมีปริมาณสัดส่วนที่เยอะมาก
การช่วยข้าราชการชั้นผู้น้อยอย่างไรก็โดนด่าไม่เยอะ เสียงชมมาแบบถล่มทลาย
ขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำ ตรงนี้ทำตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยลำบาก อาจจะไม่ถนัดถนี่เท่าที่ควร เพราะกระทรวงแรงงานอยู่ในโควตาของพรรคภูมิใจไทย โดย โกเกี๊ยะ พิพัฒน์ รัชกิจประการ นั่งเป็น รมว.แรงงานอยู่
ล่าสุด รมว.แรงงาน ออกมาระบุแล้วว่า จะขึ้นแบบก้าวกระโดดคงไม่ได้ แต่จะค่อยๆ ขยับ เพราะมีหลายมิติที่ต้องคำนึง
อีกอย่างเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ พรรคภูมิใจไทยคงไม่เด้งรับลูกตามใจพรรคเพื่อไทยแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะสุดท้ายคนที่ได้หน้าได้ผลงานจะเป็นพรรคเพื่อไทย
ยี่ห้อภูมิใจไทยรู้กันอยู่ ไม่ชอบให้ใครเคลมผลงานตัวเอง
และหากจะประสบความสำเร็จ ต้องเป็นพรรคภูมิใจไทยที่ได้หน้า เพื่อต่อยอดในสนามเลือกตั้ง ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำ ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่บวกคะแนนรัวๆ แน่หากทำสำเร็จ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเองก็พยายามจับเรื่องใกล้ตัวมาช่วยประชาชน ทั้งการช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ที่ประชาชนจับต้องได้เร็ว
เดือนแรกๆ ตอนมาตรการออกมายังไม่เห็นผลเท่าไหร่ แต่มาระยะหลังสัมผัสได้ ค่าไฟ ค่าน้ำ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ประชาชนเริ่มรับรู้ได้
หรือโดยเฉพาะค่าน้ำมัน ทั้งดีเซล และเบนซิน ตอนนี้เห็นผลชัด ราคาน้ำมันลดลงกันเห็นๆ ประชาชนแห่ไปเติมกันจนล้มปั๊ม แม้จะมีเสียงเหน็บแนมเป็นมาตรการระยะสั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วพึงพอใจ อย่างน้อยก็ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่เรื่องนี้ก็ทำให้เห็นถึงการแย่งชิงผลงานอยู่เบาๆ เพราะเจ้ากระทรวงพลังงานคือ เสี่ยตุ๋ย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ลูกพรรครวมไทยสร้างชาติ เอาไปแห่ว่า เป็นฝีมือและผลงานรัฐมนตรีของพรรคที่สัญญาไว้กับประชาชน
ซึ่งมันก็แอบมีกลิ่นของการแสดงความเป็นเจ้าของผลงานอย่างปฏิเสธไม่ได้
แต่ปมที่หนักเอาอาการของจริงคือ ราคาข้าวที่หนนี้ชาวนาไม่ได้ค่าประกันราคาข้าวที่เป็นนโยบายของรัฐบาลเก่า ซึ่งตอนนี้ในราคาที่ตกต่ำ ชาวนาบางส่วนเริ่มออกมาโวยวาย ขณะที่จำนำข้าวที่เป็นแบรนด์ของพรรคเพื่อไทย ก็ไม่สามารถกลับไปปัดฝุ่นได้ เพราะยังหลอนกันอยู่ กลัวจะโดนเล่นงานเหมือนในอดีต
ตอนนี้รัฐบาลทำได้แค่ช่วยประคอง แต่ยังไม่มีมาตรการแบบเป็นเนื้อเป็นหนังในเรื่องช่วยชาวนา
พอๆ กับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตอนนี้ขึ้นกันหลายรายการ พ่อค้าแม่ขายก็เริ่มโวยวายออกมาเช่นกัน ยุคนี้อะไรๆ ก็แพง จะไม่ปรับราคาก็อยู่ลำบาก จะคงราคาไว้ก็เข้าเนื้อตัวเอง
ก็ทำให้ค่าครองชีพของประชาชนสูงตามไปด้วย โดยเรื่องนี้รัฐบาลเริ่มจะถูกมองเรื่องฝีมือแล้ว ต้องรอดูระดับมืออาชีพทางเศรษฐกิจจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร
——————————–
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1