ข่าวสารกรุงเทพฯ

‘เศรษฐา’ หลุดในวง สส.เพื่อไทย ขอตำแหน่ง ‘ผู้กำกับใหม่’ ด้าน ‘ก้าวไกล’ ซัดผิดทั้งรธน.-จริยธรรม


‘ตั๋วเพื่อไทย’ แฮชแท็กนี้ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในไทยข้ามวันข้ามคืนและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงทันที

หลังจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้ไปประชุม สส. พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 ตอนหนึ่งได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาหนี้ในระบบและนอกระบบ โดยสรุปว่า จะมีการประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรก ระหว่างนายอำเภอ ผู้กำกับ ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ เพื่อเตรียมจะดึงเจ้าหนี้และลูกหนี้มาพูดคุยแก้ปัญหา

“ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมมั่นใจว่าคงมีผู้ผิดหวัง มากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกว่าเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวัง” นายเศรษฐา ระบุ

ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความแสดงความเห็นผ่าน X @wirojlak ว่า

“นายกฯ ต้องตอบคำถามสังคมให้ชัดว่า ส.ส. ที่อยู่ในห้องประชุมในวันที่ 21 พ.ย. ที่นายกฯ ระบุว่า มาขอตำแหน่งผู้กำกับใหม่กับนายกฯ นั้น มีใครบ้าง เพราะการกระทำเช่นนี้ เป็นความผิดตาม ม.185 ของรัฐธรรมนูญ ที่ชัดเจนมาก”

และ “การที่นายกฯ พูดว่ามี สส. มาขอตำแหน่งผู้กำกับใหม่ เป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรา 185 ของ รธน.60 อย่างชัดเจน เพราะ สส. ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซง ก้าวก่าย การแต่งตั้ง โยกย้าย โอน หรือเลื่อนตำแหน่งของข้าราชการ ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม”

ขณะที่นาย รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อกรณีนี้ว่า เรื่องตั๋วตำรวจที่นายกฯ ‘เศรษฐา’ พูดออกมาในทำนองว่ามี สส. พรรคเพื่อไทยฝากกันมาเยอะ เป็นเรื่องที่ผิดทั้งรัฐธรรมนูญ ผิดจริยธรรมนักการเมือง และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ เหตุใดเป็นถึงนายกฯ กลับทำเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่เป็นการใช้เส้นสายและผิดกฎหมาย ยังไม่นับว่าตำรวจอีกมากที่ไม่ใช้เส้นสาย จะช้ำใจและเสียใจมากขนาดไหน ครอบครัวของเขาอีกหลายคนที่ได้รับผลกระทบ

“รัฐบาลนี้เริ่มต้นไม่ทันไร ก็ทำให้ระบบเส้นสายเติบโตเสียแล้ว ไม่แปลกที่เราถึงได้เห็นองค์กรตำรวจเป็นแบบนี้ นี่ใช่มั้ยถึงไม่อยากใช้คำว่าปฏิรูป นี่ใช่มั้ยถึงไม่กล้ามาตอบกระทู้ในสภา น่าผิดหวังมาก ผิดหวังแทนตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไม่มีเส้นสาย” นายรังสิมันต์ระบุ

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้จะต้องตรวจสอบกันอย่างแน่นอน นายกฯ เศรษฐาอย่าได้หนีการตรวจสอบ และเอาความจริงมาพูดว่าตกลงฝากใครไปบ้าง ผู้กำกับคนไหนได้ตั๋ว สร.1 หรือตั๋วนายกฯ หรือตั๋วเพื่อไทย และตนขอเรียกร้องไปยังพี่น้องตำรวจช่วยกันส่งเรื่องนี้มาให้ ยืนยันจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้นิ่งเงียบเด็ดขาด

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ช่วงปลายเดือนกันยายน ซึ่งกำลังมีการคัดเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ เกิดข่าวคราวความไม่โปร่งใสในวงการตำรวจจำนวนมาก มีเสียงสะท้อนจากประชาชนต้องการให้เกิดการสังคายนาตำรวจอย่างจริงจัง แต่ ณ เวลานั้น นายกฯ เศรษฐา กลับบอกว่าไม่ควรใช้คำว่าสังคายนา เพราะตำรวจเป็นองค์กรที่มีเกียรติ

นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังเห็นว่า การสังคายนาตำรวจมีความจำเป็นมาก ไม่ใช่การลดเกียรติตำรวจ แต่เป็นการทำให้ตำรวจที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา สามารถทำหน้าที่อย่างมีศักดิ์ศรีได้ มีที่อยู่ที่ยืนในองค์กรตำรวจได้ ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อองค์กรตำรวจ การปล่อยสถานการณ์ไว้เป็นแบบปัจจุบัน มีแต่ทำให้องค์กรตำรวจถูกกลืนกินด้วยอำนาจมืด ผู้ที่เป็นนายกฯ จะไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆ ต่อความล้มเหลวในการปฏิรูปตำรวจได้เลย

จึงเรียกร้องต่อ นายกฯ ‘เศรษฐา’ ให้เร่งปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง และในอนาคตเมื่อมีการเลือก ผบ.ตร. อีกครั้ง ก็ควรใช้วิธีดังต่อไปนี้ โดยอาศัย พ.ร.บ. ตำรวจปัจจุบันเพื่อประกอบการใช้ดุลพินิจของนายกฯ

1. รอง ผบ.ตร. ที่ประสงค์จะเป็น ผบ.ตร. ให้ยื่นความจำนงต่อกรรมการที่นายกฯ ตั้งขึ้น พร้อมพอร์ตโฟลิโอผลงานต่างๆ

2 .ให้มีการแสดงวิสัยทัศน์สาธารณะ ให้ประชาชนได้เห็นว่าคุณมีวิสัยทัศน์อะไร ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ที่จะเป็น ผบ.ตร. มีแผนพัฒนาตำรวจอย่างไร โดยเฉพาะภายใต้กรอบระยะเวลาที่ตนเองเหลืออยู่

3. ทำแพลตฟอร์มออนไลน์ให้พี่น้องตำรวจสามารถลงทะเบียนเพื่อโหวตเลือก ผบ.ตร. ได้ เพื่อให้นายกฯ ทราบว่าตำรวจส่วนใหญ่อยากให้ใครเป็น ผบ.ตร. โดยแพลตฟอร์มจะไม่สามารถระบุตัวตนตำรวจที่โหวต รู้แค่ว่าเป็นตำรวจ ซึ่งสามารถทำได้ในปัจจุบัน

ทั้ง 3 ข้อนี้จะนำไปสู่การติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้อง ให้ ผบ.ตร. รวมถึงตำรวจทุกตำแหน่ง ไม่ได้มาจากเส้นสาย ไม่ได้มาจากตั๋ว ไม่ได้มาจากการซื้อ เพื่อปูทางสู่การสร้างตำรวจที่จะต่อสู้กับอำนาจมืดทุกรูปแบบ

ในช่วงเช้าวันนี้ นายรังสิมันต์ ยังโพสต์อีกว่า “เรื่อง ตั๋วเพื่อไทย นี่ใหญ่มากนะครับอำนาจในการแต่งตั้งผู้กำกับ เป็นอำนาจของผู้บัญชาการ ตาม ม.66 พรบ ตำรวจ และ ม.68 ก็ให้อำนาจผู้การเสนอแนะการแต่งตั้งโยกย้ายผู้กำกับในสังกัดตนเองได้ ส่วนอำนาจนายก คือ การเสนอชื่อ ผบ.ตร. นู้นครับ การที่คุณเศรษฐาเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย รับฝากชื่อ ผกก. จาก สส เพื่อไทย คือการทำผิดกฎหมาย เป็นการทุจริตคอรัปชั่น สส. ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าทราบว่าใครบ้างก็ทำผิดกฎหมายด้วยกันทั้งหมดครับ”





Source link