ข่าวสารกรุงเทพฯ

แม่สอด-เมียวดี: ชะตากรรมทหารเมียนมาที่ถอยร่นประชิดชายแดนไทย จะเป็นเช่นไร – BBC News ไทย


ที่มาของภาพ, THAI NEWS PIX

คำบรรยายภาพ, ทหารไทยสั่งกั้นพื้นที่เชิงสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 2 หลังเกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังผสมของฝ่ายต่อต้านและทหารกองทัพเมียนมา ช่วงค่ำวานนี้ (12 เม.ย.)

ความท้าทายของกองกำลังผสมของฝ่ายต่อต้านในขณะนี้คือ พวกเขาจะสามารถรักษาเมืองเมียวดีที่ยึดจากรัฐบาลทหารเมียนมาได้หรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าทางกองทัพเมียนมาพยายามส่งกำลังเสริมเข้ามาในเมียวดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อทวงคืนฐานที่มั่นที่ใหญ่ที่สุดซึ่งอยู่ติดชายแดนฝั่งตะวันตกของไทย

ทหารเมียนมายังไม่ยอมจำนน

นับตั้งแต่กองกำลังผสมของฝ่ายต่อต้านเข้ายึดค่ายผาซองซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกองทัพเมียนมาและเป็นที่ตั้งของกองพันทหารราบที่ 275 ได้ตั้งแต่คืนวันที่ 10 เม.ย. พะโด ซอ ตอ นี โฆษกสหภาพกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นยู (Karen National Union: KNU) อ้างว่าพวกเขาสามารถยึดเมืองเมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยงได้หมดแล้ว และพบว่ากำลังพลทหารเมียนมาบางส่วนได้ถอยร่นไปยังเชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ในเวลาต่อมา

ล่าสุดมีรายงานว่าจำนวนทหารที่ยังตั้งรับอยู่ที่เชิงสะพานแห่งนี้ มีจำนวนประมาณ 100 คน และทั้งหมดยังไม่ยอมจำนนต่อกองกำลังฝ่ายต่อต้านซึ่งนำโดย กองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นแอลเอ (Karen National Liberation Army: KNLA) ซึ่งเป็นปีกทหารของ KNU และองค์การป้องกันชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นดีโอ (Karen National Defense Organization: KNDO) กองกำลังพิทักษ์ประชาชนหรือพีดีเอฟ (People’s Defense Force: PDF) ปีกทหารของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติหรือเอ็นยูจี (National Unity Government: NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลพลัดถิ่นที่ถูกกองทัพยึดอำนาจเมื่อ 3 ปีก่อน

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนติด อ.แม่สอด จ.ตาก วานนี้ (12 เม.ย.) และบอกกับสื่อว่า กำลังพลของทหารเมียนมายังไม่ได้ร้องขอข้ามแดนมายังฝั่งไทย

ตั้งแต่เย็นวานนี้ สื่อมวลชนหลายสำนักรวมถึงประชาชนใน อ.แม่สอด ต่างได้ยินเสียงการปะทะกันของกองกำลังทั้ง 2 ฝ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ รายงานว่าทหารแจ้งให้สื่อมวลชนซึ่งอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 2 ฝั่งไทย หลบลงไปในแนวถนนด้านล่าง หลังพบโดรนยิงระเบิดฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเมยซึ่งเป็นฐานชั่วคราวของกำลังพลทหารเมียนมาที่ถอยร่นมาจากค่ายผาซอง จากนั้นตามมาด้วยเสียงปะทะต่อเนื่องจนถึงเวลาประมาณ 19.30 น. เป็นเหตุให้ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนูเข้าตรึงพื้นที่เชิงสะพานอย่างเข้มงวดตลอดทั้งคืนจนถึงตอนนี้

ที่มาของภาพ, THAI NEWS PIX

คำบรรยายภาพ, พันเอก ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (คนที่ 2 จากขวา) บอกว่าสถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้ยังสงบ ไม่มีการปะทะกันเกิดขึ้นในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

วันนี้ (13 เม.ย.) พันเอก ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู บอกกับบีบีซีไทยว่า มีเพียงสำนักงานศุลกากรของเมียนมาที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยโดรนของฝ่ายต่อต้าน ขณะที่ด่านพรมแดนบริเวณสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 2 ยังเปิดตามปกติ ทว่า มีเพียงผู้ประกอบการจากฝั่งเมียนมาเดินทางเข้ามาค้าขายในไทย แต่ยังไม่มีรถบรรทุกสินค้าจากฝั่งไทยเดินทางข้ามไปยังเมียวดี เนื่องจากบริษัทชิปปิ้งซึ่งตั้งอยู่ฝั่งเมียนมายังไม่กลับมาเปิดให้บริการหลังเกิดเหตุปะทะ

“เรายังหมุนเวียนกำลังพลเป็นระยะ ๆ และตรึงกำลังตามแนวชายแดนเช่นเดิม” ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กล่าว และบอกว่าสถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้ยังสงบ ไม่มีการปะทะกันเกิดขึ้นในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

เช่นเดียวกับแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามในตัวเมืองเมียวดีที่ยืนยันกับบีบีซีไทยว่า สถานการณ์ภายในตัวเมืองยังคงดำเนินไปตามปกติ

ช่วงดึกวานนี้ บีบีซีแผนกภาษาพม่ารายงานว่า กองทัพเมียนมาได้บัญชาการส่งกำลังเสริมเข้ามายังตัวเมืองเมียวดี โดยเดินทางเข้ามาทางจังหวัดกอกาเร็ก รัฐกะเหรี่ยง ผ่านถนนสายเอเชียซึ่งเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อกับชายแดนไทย พร้อมกับปูพรมการโจมตีทางอากาศที่เมืองติงกะหยิงหย่อง (Thingannyinaung) ตลอดทั้งคืน

เมืองนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองเมียวดีประมาณ 10 กิโลเมตร และตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังผสมของฝ่ายต่อต้านก่อนหน้าการยึดค่ายผาซองเพียงไม่กี่วัน อันส่งผลให้ทหาร ข้าราชการ รวมถึงครอบครัวจำนวนรวมกันกว่า 600 คน ตกอยู่ในฐานะเชลยศึกเมื่อพวกเขาจำนนต่อฝ่ายต่อต้าน

ด้วยเหตุนี้ ทหารของเมียนมาซึ่งตั้งหลักอยู่ที่เชิงสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 2 จึงรอคอยการสมทบของกองทัพเมียนมาที่กำลังมาถึง และยังไม่ยอมจำนน จากข้อมูลของแหล่งข่าวในสภาทหารที่บอกกับบีบีซีแผนกภาษาพม่าล่าสุด

ที่มาของภาพ, THAI NEWS PIX

คำบรรยายภาพ, จุดผ่านแดนบริเวณสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 2 ยังเปิดตามปกติ

KNU แถลงการณ์เตือนประชาชน

เย็นวานนี้ KNU ออกแถลงการณ์ว่า นับตั้งแต่กองกำลังผสมของฝ่ายต่อต้านสามารถยึดฐานยุทธวิธีในเมืองติงกะหยิงหย่อง ซึ่งอยู่ภายใต้กองบัญชาการตะวันออกเฉียงใต้ของกองทัพเมียนมา รวมถึงเข้ายึดกองพันทหารราบที่ 275 ในตัวเมืองเมียวดีได้ ทางฝ่ายตนเองและพันธมิตรจึงพยายามสกัดกั้นและยับยั้งกำลังเสริมที่ทางรัฐบาลทหารส่งเข้ามาเพื่อไม่ให้สูญเสียพื้นที่เมียวดีไป ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้ประชาชนใช้ชีวิตและเดินทางด้วยความระมัดระวัง

ในแถลงการณ์เดียวกันนี้ยังระบุด้วยว่า เมื่อพื้นที่เมียวดีมีความปลอดภัยแล้ว ทาง KNU จะร่วมมือกับประชาชนในท้องถิ่นเพื่อจัดตั้งการบริหาร ไม่ให้มีการทำธุรกิจผิดกฎหมาย การค้าของเถื่อน และการค้ามนุษย์ จะบังคับใช้กฎหมายและคำสั่งที่มีผลต่อสาธารณะเท่าที่จำเป็น พร้อมกับเอื้อให้สินค้าและสิ่งอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ยังไหลเวียนต่อไปได้ท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

ทาง KNU ยังระบุด้วยว่า ตนเองมีความกังวลอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่สองฝั่งชายแดนไทย-เมียนมา ทั้งนี้ ทางกลุ่มยังพยายามทำงานประสานกับฝ่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น รัฐบาลไทย องค์กรท้องถิ่นและองค์กรระหว่างประเทศ หรือ องค์กรกะเหรี่ยงตามแนวชายแดน เพื่อฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงให้กับประชาชนในแนวชายแดน

ที่มาของภาพ, THAI NEWS PIX

คำบรรยายภาพ, บรรยากาศเชิงสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 2 ของฝั่งไทย

ที่มาของภาพ, THAI NEWS PIX

คำบรรยายภาพ, บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 2 เมื่อมองจากฝั่งไทย

แผนรับมือไทยหากทหารเมียนมาขอลี้ภัยข้ามแดน

ในการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนระหว่างการเยือน อ.แม่สอด วานนี้ นายปานปรีย์บอกว่า “ไทยไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเราเป็นเพื่อนบ้านของเมียนมา และเราก็พร้อมจะดูแลตามหลักมนุษยธรรม” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทางการไทยจะอนุญาตให้ทหารเมียนมาซึ่งตั้งหลักอยู่แนวเชิงสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 2 ข้ามมายังฝั่งไทยหรือไม่ หากได้รับการร้องขอ

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บอกว่า ทางการไทยจะอนุญาตให้ทหารเมียนมาข้ามแดนมาได้ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมเท่านั้น โดยทางทหารเมียนมาต้องปลดอาวุธและแต่งกายเป็นพลเรือนก่อนถึงจะข้ามมาได้ ซึ่งทางไทยจะปฏิบัติตามหลักการของสหประชาชาติที่ระบุว่าจะไม่ส่งกลับไปในที่ที่อันตราย แต่เบื้องต้นยังไม่มีการขอข้ามแดนจากกำลังพลเมียนมาเข้ามาแต่อย่างใด



Source link