‘โลตัส’ ปลุกกำลังซื้อคอเกาหลี ทุ่มดึง ‘พัคซอจุน’ มีตแอนด์กรี๊ดครั้งแรกในไทย 21 ต.ค.นี้
‘โลตัส’ ปลุกกำลังซื้อคอเกาหลี ทุ่มดึง ‘พัคซอจุน’ มีตแอนด์กรี๊ดครั้งแรกในไทย 21 ต.ค.นี้
เรียกว่าไม่หยุดนิ่งกันเลยทีเดียว สำหรับ “โลตัส” ยักษ์ใหญ่ไฮเปอร์มาร์เก็ตเมืองไทยที่มีสาขาครอบคลุมทั่วทิศทั่วไทยกว่า 2,300 สาขา
หลังประกาศแปลงร่างจากโลตัสไฮเปอร์มาร์เก็ตกล่องไม้ขีดธรรมดา สู่ “สมาร์ท คอมมูนิตี้ เซ็นเตอร์” ให้ทันสมัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทุกวัยแล้ว
ล่าสุดเรียกเสียงฮือฮา เกาะกระแสเกาหลีฟีเวอร์ ดึงดาราดัง “พัคซอจุน” นักแสดงภาพยนตร์และซีรีย์ชื่อดังจากเกาหลี จัดงาน Meet & Greet ครั้งแรกในไทยในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผ่านแคมเปญ “Lotus’s Anniversary 2023 ‘Golden Moment’ ฟินไม่พักกับพัคซอจุน” จัดขึ้นในวาระโลตัสครบรอบ 30 ปี
“เบญจวรรณ อ่องศรี” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารพื้นที่ศูนย์การค้า โลตัส กล่าวว่า ปี 2566 โลตัสก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 นอกจากได้เดินหน้าในการเป็นสมาร์ท คอมมูนิตี้ เซ็นเตอร์ ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนในชุมชน ผ่านการพัฒนาสาขาและพื้นที่ศูนย์การค้ารูปแบบใหม่ให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกวัย ยังจัดกิจกรรมที่ตอบสนองการใช้ชีวิตและเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่
“เมื่อปีที่แล้วโลตัสมีกิจกรรมที่เชื่อมการลงทุนทองเข้ากับคนรุ่นใหม่ จัดกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรร้านทอง จัดกิจกรรมพิเศษ ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า ซึ่งผู้ค้าทำยอดขายกันได้ 200-300 ล้านบาท” เบญจวรรณกล่าว
สำหรับในปีนี้ “เบญจวรรณ” บอกว่า โลตัสเรามีสโลแกนถ้าเป็นยอดขายเราโต 2 เท่า และถ้าเป็นกำไร 3 เท่า ดังนั้นในปีนี้จึงร่วมกับผู้ค้าต่อยอดกระแสวงการบันเทิงเกาหลี โดยร่วมลงขันกับ 11 พันธมิตรจัดแคมเปญ “Lotus’s Anniversary 2023 ‘Golden Moment’ ฟินไม่พักกับพัคซอจุน”
ประกอบด้วยพันธมิตรร้านทองและร้านค้าแบรนด์ดังในโลตัส โดยนำ ‘พัคซอจุน’ นักแสดงภาพยนตร์และซีรีย์ชื่อดังจากเกาหลี จัดงาน Meet & Greet ครั้งแรก ในไทย หลังไม่ได้มาไทยนานหลายปี ประกอบกับในเดือนตุลาคมนี้’พัคซอจุน’ มีซีรี่ย์ใหม่ออกมาด้วย เราไปเชิญเขามาร่วมงานในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อสร้างประสบการณ์ดี ๆ ที่เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะลูกค้าโลตัส มียอดใช้จ่ายสูงสุด 2,500 คนแรกจะไปรวมตัวกันที่นั้น
สำหรับวิธีการเข้าร่วมกิจกรรม “เบญจวรรณ” บอกว่าง่ายๆ เพียงสะสมใบเสร็จจากการซื้อทองจากร้านพันธมิตร ได้แก่ ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ห้างทองเยาวราชสินทวี ห้างทองออโรร่า ห้างทองหวังโต๊ะกัง บางกอกโกลด์
หรือสะสมใบเสร็จจากการซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าทุกร้านในพื้นที่ศูนย์การค้าโลตัส อาทิ แว่นท็อปเจริญ, บีควิก, Ottrti, Wacol, Collar Tea, เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สามารถสะสมยอดซื้อได้ตลอด 54 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม ถึง 8 ตุลาคม 2566 ที่โลตัสสาขาใหญ่ไฮเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ
ด้านกำลังซื้อ “เบญจวรรณ” ย้ำปัจจุบันภาพรวมกำลังซื้อยังเติบโต โดยครึ่งปีแรก 2566 มีการปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ดูจากการสร้างยอดขายและอัตรากำไรของผู้ค้า รวมถึงทราฟฟิกที่เพิ่มขึ้นแต่ละสาขา โดยเฉพาะสาขาเมืองท่องเที่ยว กรุงเทพ หัวเมืองใหญ่ และมองว่าจะดีต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้
ขณะเดียวกัน โลตัสมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นลดราคาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย สร้างงาน ทำให้โดยภาพรวมตลาดมันดียิ่งขึ้น ทั้งนี้หากปลายปีที่เป็นช่วงไฮซีซั่นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากจะทำให้ตลาดเติบโตได้อีก ซึ่งการเมืองคงไม่มีผล
ส่วนนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะส่งผลต่อกำลังซื้อค้าปลีกได้แค่ไหนนั้น คงต้องดูรายละเอียด เพราะยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน แต่ถ้าเป็นนโยบายที่ช่วยเหลือประชาชนก็ถือว่าดี