ไทย-กัมพูชาเร่งช่วยผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ตลาดช่องจอม สรุปยอดวอด 320 ร้าน สูญกว่า 100 ล้าน
สุรินทร์- รองผู้ว่า 2 ประเทศ จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา รุดเยี่ยมช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ใหญ่ตลาดชายแดนช่องจอม สรุปยอดเผาวอด 320 ร้านค้า สูญกว่า 100 ล้าน ขณะทีม MCATTลงพื้นที่เยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ ด้านพิสูจน์หลักฐานเร่งเก็บหลักฐานตรวจสอบพร้อมปิดป้ายประกาศห้ามเข้าและเคลื่อนย้าย 45 วัน สาเหตุคาดไฟฟ้าลัดวงจร
วันนี้ ( 28 ต.ค.) ที่กองอำนวยการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยตลาดช่องจอมโดย อ.กาบเชิง และ อบต.ด่าน ตั้งอยู่ใต้อาคารโอทอป อบจ.สุรินทร์ ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นายสันทัด แสนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์,นายประภาส ศรีจันทร์เวียง ปลัด จ.สุรินทร์,นายสุทธิโรจน์ เจริญธนะศักดิ์ นาย อ.กาบเชิง, ปลัด อ.กาบเชิง พร้อมด้วย นายกกิ่งกาชาด, ปภ.สุรินทร์,พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สรีเสริม ผกก.สภ.กาบเชิง,รอง ผกก.สภ.กาบเชิง,นายก อบต.ด่าน,ปลัด อบต.ด่าน, เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังสุรนารี,ทหารพราน,จนท.ตม.สุรินทร์,หน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ 2 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
รวมทั้งนายฮุน โซเพี๊ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา พร้อมด้วยประธานช่องโอร์เสม็ด,หัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย ประเทศกัมพูชา และหน่วยงานในพื้นที่โอร์เสม็ด ฝั่งกัมพูชา ได้ร่วมกันมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประกอบการชาวกัมพูชาและชาวไทยบางส่วน รวมกว่า 300 คน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นการปลอบขวัญให้กำลังใจ หลังร้านค้าภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ถูกเพลิงไหม้เสียหายจำนวน 320 ร้านค้า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ของคืนที่ผ่านมา (27 ต.ค.65)ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
โดยช่วงเช้าวันนี้กองอำนวยการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยตลาดช่องจอมโดย อ.กาบเชิง และ อบต.ด่าน ได้เปิดให้ผู้ประสบภัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา เข้ามาลงทะเบียนผู้ประสบภัย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาตามกรอบกฎหมาย และเพื่อตรวจสอบยอดร้านค้าและสินค้าที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งพบว่ามีร้านค้าได้รับความเสียหายถึง 320 ร้านค้า คาดการณ์ความเสียหายในเบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท และสรุปผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นลม จำนวน 5 คน ล้างแผล 10 คน ข้อเคล็ดขาแพลง 1 คน ให้ออกซิเจนนักดับเพลิง 6 คน นอกจากนี้ ยังมีทีมเยียวยาจิตใจ จาก MCATT จาก รพ.กาบเชิง และ สำนักงานสาธารณสุขสุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ปฐมพยาบาลทางจิตใจในเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัยอีกด้วย
ขณะที่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.สุรินทร์ ลงพื้นที่จุดไฟไหม้ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยเฉพาะบริเวณซอย 9 เพื่อเก็บหลักฐานอย่างละเอียด หาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ พร้อมทั้งปิดป้ายข้อความห้ามเข้า มีข้อความระบุว่า “พื้นที่เพลิงไหม้ ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522” อีกด้วย ทั้งนี้มีรายงานว่า ระหว่างเกิดเหตุ ชาวกัมพูชาได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง ก่อนจะมีไฟลุกไหม้ดังกล่าว คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
นายสันทัด แสนทอง รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ กล่าวว่า นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้มอบหมายให้ตน มาสำรวจที่เกิดเหตุและประมาณค่าความเสียหาย รวมทั้งเมื่อวาน นายอำเภอกาบเชิง เป็นผู้บัญชาสการเหตุการณ์ได้ระดมรถน้ำดับเพลิง จากส่วนราชการต่างๆเข้ามาช่วยระงับเหตุ กว่า 50 หน่วยงานทั้งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์และศรีสะเกษ ให้เข้ามาช่วยเหลือรวมทั้งรถกู้ภัยต่างๆ ขณะนี้เพลิงได้สงบแล้ว อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายที่เกหิดขึ้นทั้งหมดเพื่อประมวลรวม นำเข้าที่ประชุม กชพอ.เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกฎหมายที่ เกี่ยวข้องต่อไป พื้นที่ร้านค้าที่เสียหาย 10 ล็อก 320 ห้อง เสียหายทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ตอนนี้ทางหน่วยพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจสอบสาเหตุของการเกิดอัคคีภัยในครั้งนี้
นายฮุน โซเพี๊ย รอง ผวจ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ชาวกัมพูชาที่มาค้าขายที่ตลาดช่องจอมแห่งนี้ ซึ่งทางการกัมพูชาจะช่วยเหลือตามระเบียบที่ทางการกัมพูชามีและช่วยได้เท่าที่ทำได้ และจะมีการประสานงานความช่วยเหลือกับทั้ง 2 ประเทศต่อไป ตนขอให้กำลังใจผู้ประสบภัยทุกคน
ด้าน นายนพรัตน์ ศรีพรม เจ้าของร้านสกีนส์เสื้อที่ถูกเพลิงไหม้ กล่าวว่า ร้านของตนเป็นร้านสกรีนเสื้อ มีเสื้อประมาณ 1 หมื่นตัวไหม้หมดทั้งร้าน ขนออกไม่ทัน เพราะมืด ประตูก็เปิดไม่ได้ เพราะลูกกุญแจอยู่กับลูกน้อง เหตุการณ์ฉุกละหุกเกิดขึ้นเร็วมาก มูลค่าความเสียหายทั้งร้านน่าจะเกือบ 2 ล้านบาท ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเยียวยาผู้ประสบภัยด้วย
สำหรับตลาดการค้าชายแดนช่องจอมเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ทั้งตลาดมาแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2553 ผ่านมา 13 ปีแล้ว ร้านค้าหลายร้อยร้านค้าเสียหายเป็นตอตะโก ต้นเพลิงเกิดจากถังแก๊สลุกลามภายในร้านดับไม่ทัน และรถดับเพลิงเข้าไปฉีดสกัดในซอยไม่ได้เนื่องจากมีการต่อหลังคาบังแดดเชื่อมโยงกัน ทางเข้าจึงแคบ รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้ รวมทั้งเป็นสินค้าที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และเกิดความเสียหายครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างมากกว่าในครั้งนี้ แต่กลับพบว่ามูลค่าความเสียหายในครั้งนี้มีมากกว่า เนื่องจากมีการสต็อกสินค้าไว้ขายในช่วงเทศกาลออกพรรษา หน้าหนาว และเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมปัจจุบัน อยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่ โดยการสร้างอาคารถาวรที่มั่นคงปลอดภัย และอยู่ระหว่างกำลังก่อสร้าง แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้มีการให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าขยับย้ายร้านไปด้านหลังทางทิศเหนือของตลาดเป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้