ข่าวสารกรุงเทพฯ

ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 21 กันยายน …



ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 21 กันยายน 2566

ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 21 กันยายน 2566

การเมือง/มั่นคง

นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคี ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือในทุกมิติ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบหารือทวิภาคีกับนายยุน ซ็อก ย็อล ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA78) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงประเด็นต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่่ ด้านการเมือง นายกรัฐมนตรีผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ พร้อมเชิญประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีและภริยาเดินทางเยือนไทย

ด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเร่งรัดผลักดันการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและได้หารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในสาขาต่างๆ ด้านการลงทุน เชิญชวนให้นักลงทุนเกาหลีเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยรัฐบาลพร้อมช่วยอำนวยความสะดวกการลงทุน และด้านการท่องเที่ยว เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้น

ไทย-เวียดนาม มุ่งกระชับความสัมพันธ์รอบด้าน พร้อมผลักดันความเข้มแข็งในระดับภูมิภาค

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้โอกาสในการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา หารือทวิภาคีกับนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงประเด็นต่างๆ ที่สำคัญ โดยเห็นพ้องที่จะเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกันเพื่อเชื่อมเมืองรองของไทย ส่งเสริมการค้าและความสัมพันธ์ระดับประชาชน แลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันเพิ่มขึ้นและตกลงที่จะเยือนกันและกันในโอกาสแรก รวมทั้งขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกทางการค้าให้มากยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการดำเนินการสภาพภูมิอากาศ

การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ที่นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาวันที่ 2 ในเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 22.00 น.เมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการดำเนินการสภาพภูมิอากาศ โดยได้ชื่นชมวาระเร่งด่วนของเลขาธิการสหประชาชาติ ที่สนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net-zero) ให้ใกล้เคียงกับปี ค.ศ. 2050 มากที่สุด

ในส่วนของประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายนี้เช่นกัน โดยได้ส่งเสริมกลไกการเงินสีเขียวอย่างแข็งขัน ผ่านการออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน ปัจจุบันสามารถระดมเงินได้ในจำนวน 12.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กระตุ้นการเติบโตของพันธบัตรสีเขียว เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรต่างๆ จะได้รับแรงจูงใจในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDG มีการจัดตั้งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และผลักดันพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อควบคุมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบบังคับ เพื่อสร้างความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศให้แก่ทุกภาคส่วน

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกประเทศทั่วโลกและประเทศไทยจะเร่งดำเนินการมาตรการต่อเนื่องเพื่อเอาชนะวิกฤตการณ์นี้

และในวันนี้ ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ จัดอาหารไทยมาบริการผู้เข้าร่วมประชุม ให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันด้วย นายกรัฐมนตรีของไทย ได้รับประทานข้าวผัดกะเพราและได้โพสต์คลิปใน IG มีข้อความว่า “แค่ได้ผัดกะเพราไข่ดาวก็มีแรงประชุมต่อ เป็นอาหารกลางวันที่ UN จานใหญ่มาก อร่อยมาก”

นายกรัฐมนตรี ย้ำไม่มีความคิดปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และยันยังไม่เคาะรายชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีความคิดจะปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยตามที่เป็นข่าว และไม่แน่ใจว่ามีข่าวมาได้อย่างไร เพราะเคยได้เจอกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเพียง 3 ครั้ง ตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมือง ก่อนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับตนและผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่เคยมีเรื่องมาก่อน ต่างคนต่างให้ความเคารพ ให้เกียรติ เคารพซึ่งกันและกัน ส่วนการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยังไม่ได้เคาะรายชื่อ

นายกรัฐมนตรี ผลักดันความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนกับนานาประเทศ เพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทย

ภารกิจวันที่ 2 ในการเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาวันนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังคงเข้าร่วมการประชุมในหลายเวทีสำคัญ ทั้งการประชุมระดับสูงเรื่องการจัดหาเงินทุนเพื่อการพัฒนา โดยประเทศไทย เสนอแนะการปฏิรูปสถาปัตยกรรมทางการเงิน เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประเทศกำลังพัฒนา กำหนดทิศทางความร่วมมือที่ยั่งยืน สอดคล้องกับแนวทางสากล

ขณะที่การจัดกิจกรรมคู่ขนานระดับสูงของประเทศไทยและอาเซียน ซึ่งประเทศไทยและคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ (UNESCAP) ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งประเทศไทยร่วมมือกับอาเซียน เสริมสร้างศักยภาพและโอกาส ดึงดูดการลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว มุ่งสู่ภูมิภาคของการผลิตที่ยั่งยืน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมตลอด 2 วันที่ผ่านมา ภายใต้ธีม “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน “เป็นเรื่องดี ที่ทุกประเทศเห็นพ้องต้องกันและให้ความสำคัญ เพื่อสร้างความยั่งยืนในการเจริญเติบโตของประเทศ

นายกรัฐมนตรี ยังใช้โอกาสเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 78 นี้แสวงหาความร่วมมือจากมิตรประเทศ โดยได้หารือทวิภาคีกับนายยุน ซ็อก ย็อล ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี พัฒนาความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น รวมทั้งผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันและเร่งรัดผลักดันการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในสาขาต่างๆ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเชิญชวนนักลงทุนและนักท่องเที่ยวเกาหลี เข้ามาลงทุนและท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น รัฐบาลพร้อมช่วยอำนวยความสะดวกการลงทุนดังกล่าว

นอกจากเรื่องการค้าการลงทุนและสิ่งแวดล้อมแล้ว นายกรัฐมนตรี ยังให้ความสำคัญกับการผลักดันวงการกีฬาของไทย โดยมีโอกาสได้พบปะกับประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า พร้อมสานต่อความร่วมมือด้านกีฬาและย้ำความพร้อมของไทยและอาเซียน ในการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดฟุตบอลโลกปี 2034

เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว

ตำรวจท่องเที่ยว วางมาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยคุ้มครองนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย

พลตำรวจโท สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกรองรับนักท่องเที่ยว หลังจากรัฐบาลมีนโยบาย Visa Free ชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 รวมระยะเวลา 5 เดือน พบว่าขณะนี้มียอดจองห้องพักและเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นช่วงปลายปี หรือฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย ในส่วนของการท่องเที่ยวได้ออก 2 มาตรการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ทั้งบูรณการร่วมกับภาคเอกชน สมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้องสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ซึ่งทุกหน่วยงานดำเนินการไปแล้ว ส่วนด้านความมั่นคงกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะเป็นหน่วยงานหลักของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บูรณการทำงานร่วมกับศูนย์ 191 และ 1162 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) ตั้งศูนย์ช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยว วางมาตรการดูแลด้านความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ที่สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี อาหรับ รัสเซีย เมียนมา และมาเลซีย เพื่อส่งข้อมูลในการช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ควบคู่การให้ความช่วยเหลือผ่าน แอปพลิเคชัน Tourist Police i lert u รวมถึงการออกตรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และการปราบปราบกลุ่มธุรกิจสีเทา ที่ผิดกฎหมาย เอาเปรียบนักท่องเที่ยว หลอกลวงซื้อสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมามีการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ขอความช่วยเหลือด้านการสื่อสารด้านที่พัก หรือเหตุทะเลาะวิวาท รวมถึงรับแจ้งเตือนเรื่องภัยพิบัติ แหล่งท่องเที่ยวที่มีความเสี่ยงจากภัยพิบัติ

นอกจากนี้ ตำรวจท่องเที่ยวยังได้ประสานงานกับสถานทูตทุกประเทศ ร่วมสอดส่องด้านการข่าวที่ทำลายความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวของไทยและยังเข้มงวดร้านเช่ายานพาหนะทุกประเภทต้องได้รับใบรับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายหากเกิดอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวจะได้รับการคุ้มครอง

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ ลงพื้นที่ให้คำแนะนำเกษตรกร ใช้ประโยชน์จาก FTA

นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่พบเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ จังหวัดน่าน ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ พร้อมจัดสัมมนาให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องความตกลงการค้าเสรี (FTA) และแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องสถานการณ์การค้าสินค้าในพื้นที่ ทั้งกาแฟ ชาอัสสัม ลำไยอีดอ และผ้าทอน่าน โดยมุ่งเน้นให้เร่งใช้ประโยชน์จาก FTA ที่ไทยทำกับคู่ค้า 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ซึ่งได้ยกเว้นภาษีนำเข้าให้กับสินค้าส่วนใหญ่จากไทยแล้ว โดยได้นำวิทยากรผู้เชี่ยวชาญการค้าระหว่างประเทศ ให้คำแนะนำเรื่องกลยุทธ์การทำตลาด พฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ สินค้า BCG และแนวทางการเพิ่มมูลค่าสินค้า ทั้งการสร้างเรื่องราวและการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสร้างความแตกต่างของสินค้า เพื่อให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาต่อยอดสินค้า ให้สามารถแข่งขันได้และเข้าถึงช่องทางตลาดเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ได้หารือกับผู้ประกอบการกาแฟ ห้างหุ้นส่วนจำกัด น่านดูโอ คอฟฟี่ อำเภอเวียงสา และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปกาแฟสวนยาหลวง อำเภอท่าวังผา แนะนำทิศทางการเติบโตของตลาดกาแฟ ให้สามารถใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA เพื่อเพิ่มแต้มต่อขยายตลาดส่งออก ซึ่งปัจจุบันคู่ค้า FTA ส่วนใหญ่ได้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าสินค้ากาแฟจากไทยทุกรายการแล้ว

นอกจากนี้ ยังได้พบปะกับวิสาหกิจชุมชนเมี่ยงชาอัสสัมแปรรูป อำเภอปัว ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาอัสสัมขนาดใหญ่ในไทย โดยให้คำแนะนำเรื่องโอกาสทางการค้าของสินค้าชาในตลาดโลก ซึ่งเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์โลกโดยเฉพาะผู้บริโภคที่รักสุขภาพ รวมทั้งพบกับวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ลำไยพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง เกษตรกรผู้ปลูกลำไยพันธุ์อีดอ พร้อมสนับสนุนให้ใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายตลาดส่งออกไปอาเซียนและจีน ซึ่งนิยมบริโภคลำไยของไทย และได้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าให้กับสินค้าลำไยสดจากไทยแล้ว

เกษตรกรรม/สิ่งแวดล้อม

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมมาตรการรับมือสถานการณ์อุทกภัยและบริหารจัดการน้ำทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำภาพรวมทั้งประเทศ กล่าวว่า จากสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้เกิดฝนตกหนักและมีพื้นที่ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัด ขณะที่บางพื้นที่ยังคงมีฝนตกต่ำกว่าปกติ เนื่องมาจากสถานการณ์เอลนีโญ ประกอบกับช่วงฤดูฝนของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก จะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมมาตรการรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยและบริหารจัดการน้ำทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ นั้น กระทรวงเกษตรฯ จึงประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการเร่งด่วน พร้อมมอบหมายปลัดกระทรวงฯ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารไปยังประชาชนและเกษตรกรอย่างทั่วถึง เพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องและให้สามารถเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงที

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 21 ก.ย.66) มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 18 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครพนม จันทบุรี ลพบุรี สระบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา และจังหวัดอ่างทอง ซึ่งกรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 4 ได้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังในพื้นที่ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณชุมชนหมู่ 1 ตำบลปากแควและสะพานพระร่วง แม่น้ำยมฝั่งซ้ายในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัยด้วย

กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักในระยะนี้

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ระหว่างวันที่ 19-25 กันยายนนี้ ให้เฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ขอให้เกษตรกรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยเฉพาะสวนไม้ผล พร้อมแนะนำ วิธีการดูแลสวนไม้ผล ไม้ยืนต้น ก่อนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ด้วยวิธีการตัดแต่งกิ่งที่แน่นทึบหรือกิ่งที่ไม่ให้ผลผลิตออก เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง ไม่ต้านลม สำหรับต้นไม้ผลที่อายุมากและมีลำต้นสูง อาจตัดทอนส่วนยอดให้ต่ำลง รวมทั้งทำเนินดินป้องกันน้ำขังบริเวณโคน ทำระบบระบายน้ำและควรเก็บผลผลิตที่แก่ออกไปบ่มหรือจำหน่ายก่อน เพื่อลดความเสียหายและลดน้ำหนักบนกิ่งและต้นลงลง

นอกจากนี้ เกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจะได้รับความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย โดยจะได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ แบ่งเป็นข้าว ไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท โดยเกษตรกรสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน

สังคม

กระทรวงสาธารณสุข ประสานเฝ้าระวังควบคุมไข้หวัดใหญ่ ในโรงเรียน เรือนจำ ค่ายทหาร

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานสถานการณ์โรคสำคัญที่กำลังมีการระบาดในขณะนี้ 2 โรคคือ โรคไข้หวัดใหญ่ มีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้น โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 9 กันยายน 2566 มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 154,829 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ทั้งนี้ หลังจากมีประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ประชาชนผ่อนคลายเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยลง พบว่าอัตราการติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ที่มีผู้ป่วยมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า กระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่ม โรคอ้วน หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป พร้อมกำหนดมาตรการและประสานความร่วมมือในการป้องกันควบคุมโรค โดยมีหนังสือถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งแนวทางและขอความร่วมมือในการเตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ทั้งในโรงเรียน สถานศึกษา เรือนจำ ทัณฑสถาน สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ค่ายทหาร

ส่วนโรคไข้เลือดออก ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 13 กันยายน 2566 มีผู้ป่วย 91,979 ราย เสียชีวิต 93 ราย ประเด็นสำคัญคือ พบอัตราป่วยสูงในเด็กอายุ 5-14 ปี และกลุ่มอายุ 15-24 ปี แต่อัตราป่วยตายกลับสูงในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55-64 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 25-34 ปี ภาพรวมสรุปได้ว่าผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ที่เป็นไข้เลือดออกจะมีความเสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าเด็ก 2-3 เท่า เนื่องจากส่วนใหญ่เมื่อป่วยมักไปพบแพทย์และได้รับการรักษาช้าเกินไป หากมีไข้ รับประทานยา 2 วันแล้วไม่ดีขึ้น ขอให้รีบไปพบแพทย์ ที่สำคัญ ห้ามซื้อยาชุด ไอบูโพรเฟน แอสไพริน หรือยากลุ่มเอ็นเสด มารับประทานเด็ดขาด

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีสารนิเทศอาเซียน ครั้งที่ 16

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติดานัง ประเทศเวียดนาม พร้อมกับเลขานุการรัฐมนตรีและทีมงาน โดยมีเจ้าหน้าที่จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ให้การต้อนรับ พร้อมกับเจ้าหน้าที่จากกรมประชาสัมพันธ์

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีสารนิเทศอาเซียน ครั้งที่ 16 และการประชุมรัฐมนตรีสารนิเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาบวกสาม ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 22 -23 กันยายน 2566 ซึ่งการประชุมจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “MEDIA: From Information to Knowledge for a Resilient and Responsive ASEAN” หรือ “สื่อ: จากข้อมูลสู่ความรู้สำหรับอาเซียนที่มีความยืดหยุ่นและตอบสนอง” มุ่งเน้นความร่วมมือด้านสารนิเทศและการสื่อสารในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนั้นที่ประชุมมีวาระที่จะหารือความร่วมมือการพัฒนากลไกการต่อต้านข่าวปลอมในสื่อออนไลน์ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลสำหรับสื่อมวลชน การนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้และความร่วมด้านสารนิเทศระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา

สำหรับการเข้าร่วมการประชุมการประชุมรัฐมนตรีสารนิเทศอาเซียนในครั้งนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารเวียดนาม ในประเด็นความร่วมมือด้านการต่อต้านข่าวปลอมในฐานะที่เวียดนามเป็นผู้นำที่ริเริ่มข้อเสนอในการจัดตั้งคณะทำงานการต่อต้านข่าวปลอมในภูมิภาคอาเซียน และมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา ในประเด็นความร่วมมือการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กระทรวงแรงงาน รับสมัครคนไปทำงานมาเก๊า จำนวน 34 อัตรา เงินเดือนสูงสุด 78,840 บาท

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครคนไทยไปทำงานในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า กับนายจ้าง บริษัท Galaxy Entertainment Group ซึ่งประกอบกิจการโรงแรม คาสิโน และร้านอาหาร จำนวน 7 ตำแหน่ง รวม 34 อัตรา ได้แก่ พนักงานต้อนรับลูกค้าวีไอพี กัปตัน พนักงานเสิร์ฟ บาร์เทนเดอร์/บาร์แอทเทนแดน พนักงานฝ่ายต้อนรับวีไอพี พนักงานนวดสปา และพนักงานนวดฝ่าเท้า เงินเดือนระหว่าง 50,370 – 78,840 บาท โดยนายจ้างจะจ่ายค่าโดยสารเครื่องบินไป – กลับเมื่อทำงานสิ้นสุดสัญญาจ้าง และยังช่วยจ่ายค่าที่พักเดือนละ 500 เหรียญมาเก๊า หรือประมาณ 2,200 บาท อีกทั้งยังจัดอาหารในช่วงเวลาทำงาน ทำประกันสุขภาพ และสวัสดิการอื่นๆ ตามกฎหมายแรงงานมาเก๊ากำหนด ซึ่งการรับสมัครในครั้งนี้เป็นการดำเนินการเพื่อจัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศโดยวิธีรัฐจัดส่ง คนหางานไม่เสียค่าสมัครหรือค่าบริการใดๆทั้งสิ้น ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะจ่ายเพียงค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ได้แก่ ค่าถ่ายรูป ค่าทำหนังสือเดินทาง (กรณียังไม่มี) ค่าตรวจสุขภาพ ค่าตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และค่าสมัครสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ รวมค่าใช้จ่าย ประมาณ 5,500 บาท

สำหรับตำแหน่งงานและคุณสมบัติที่นายจ้างบริษัท Galaxy Entertainment Group ต้องการ จะต้องเชี่ยวชาญการสื่อสารภาษาไทยและจีนกลาง สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี มีใจรักการบริการ สามารถทำงานเป็นกะได้และมีประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งที่สมัคร ผู้สนใจศึกษารายละเอียดการสมัครสอบ และดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่ เว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th/overseas หัวข้อ “ข่าวประกาศรับสมัคร” โดยยื่นใบสมัครทางอีเมล ตั้งแต่วันที่ 21 – 27 กันยายน 2566 ไม่เว้นวันหยุดราชการ

วันอัลไซเมอร์โลก ผู้สูงอายุไทยประมาณ 600,000 -700,000 คน มีภาวะสมองเสื่อม

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเนื่องในวันอัลไซเมอร์โลก 21 กันยายนว่า โรคอัลไซเมอร์ เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของภาวะสมองเสื่อมทั่วโลก เชื่อว่ามีผู้สูงอายุประมาณ 600,000 -700,000 คนในไทยที่มีภาวะสมองเสื่อม เดิมอาศัยวิธีประเมินอาการผู้ป่วยซึ่งยืนยันการวินิจฉัยได้แน่ชัดจากการตรวจชิ้นเนื้อสมองหลังเสียชีวิตเท่านั้น และยาที่ใช้รักษายังเป็นเพียงการประคับประคองอาการยังไม่มีแนวทางรักษาให้หายขาด

อย่างไรก็ตาม ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพบว่า โรคอัลไซเมอร์เกิดจากการสะสมของโปรตีนที่ผิดปกติในสมอง ได้แก่ โปรตีนอะไมลอยด์เบต้าและโปรตีนเทาว์ นำสู่การค้นพบวิทยาการใหม่ๆ การวินิจฉัยปัจจุบันมีการส่งตรวจพิเศษ ได้แก่ การตรวจภาพถ่ายรังสีนิวเคลียร์ด้วยเครื่องเพทสแกนซึ่งจะตรวจจับโปรตีนและปริมาณการกระจายตัวในการสะสมของโปรตีนบนส่วนต่างๆ ของสมอง เพื่อแปลผลผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์ แยกโรคสมองเสื่อมอื่นๆ มีโอกาสกลายเป็นสมองเสื่อมเต็มขั้นมากแค่ไหน การตรวจระดับโปรตีนโดยตรงจากน้ำไขสันหลังและในเลือด และได้มีการพัฒนาชุดตรวจและเครื่องมือทำให้ความแม่นยำเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 90

ล่าสุดในช่วงสองปีที่ผ่านมาในอเมริกาและยุโรป ได้มีการรับรองชุดตรวจในเลือดเพื่อใช้ในการวินิจฉัย สามารถใช้เพียงการเจาะเลือด 3-5 ซีซี ก็สามารถวินิจฉัยโรคได้ และยังพัฒนาเครื่องมือตรวจให้ใช้สะดวกมากขึ้น ในรูปแบบของแผ่นตรวจสำเร็จรูป โดยหยดเลือดลงไปในแผ่นตรวจก็อาจจะตรวจจับโปรตีนเหล่านี้ได้ (แบบเดียวกับการใช้ชุดตรวจโควิด) โดยอยู่ในขั้นตอนการศึกษาทดลอง

ด้านนายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า เดิมรักษาโรคอัลไซเมอร์ด้วยยาและใช้ยาตามอาการเพื่อเพิ่มสารสื่อประสาทในสมอง แต่ไม่สามารถชะลอการเสื่อมถอยและการฝ่อของสมองได้ ทำให้ล่าสุดองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้รับรองให้สามารถใช้ยา lecanumab สำหรับการรักษาผู้ป่วยอัลไซเมอร์ระยะต้นได้เดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา และมีการผลิตยาใหม่ๆ อีกมาก ที่อาจมีประสิทธิภาพสูงขึ้นแต่มีราคาแพงมาก และยังต้องมีการประเมินผลดีของยาระยะยาว ผลข้างเคียงที่ต้องเฝ้าระวัง อาจติดตามข้อมูลหลังการใช้จริงในต่างประเทศอีกระยะ จึงสามารถนำมาใช้ในวงกว้างได้ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย

สำหรับผู้ที่สงสัยว่ามีญาติ หรือผู้ใกล้ชิดมีความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ สามารถไปรับการตรวจเบื้องต้นที่คลินิกผู้สูงอายุสถานพยาบาลใกล้บ้าน กรณีที่ตัวโรคมีความซับซ้อนจะมีการส่งตัวผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลในระดับที่สูงกว่าตามความเหมาะสม สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ สามารถให้บริการส่งตรวจระดับโปรตีนของโรคอัลไซเมอร์ในน้ำไขสันหลังได้ หากผู้ป่วยรายใดมีข้อบ่งชี้ที่ต้องเข้ารับการตรวจ สามารถเข้ารับการประเมินเบื้องต้นได้ที่สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข




ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา

ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา

แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว



Source link