ข่าวสารกรุงเทพฯ

ระวัง! “โอมิครอน KP.3” แซงหน้า JN.1 และ FLiRT กลายเป็นสายพันธุ์หลักในไทย


เมื่อไวรัสโคโรนายังคงมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นที่ทุกประเทศจะต้องเฝ้าระวังและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม โดยอาศัยความร่วมมือในระดับโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแชร์ข้อมูลการวิจัย การสุ่มถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในทุกประเทศแบบเรียลไทม์ และการเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำความรู้จัก “เฟลิร์ท” (FLiRT) โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่

สำหรับโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “เฟลิร์ท” (FLiRT) เป็นกลุ่มโอมิครอนกลายพันธุ์ที่หลายประเทศเริ่มกังวลติดต่อง่ายขึ้นแต่ยังไม่พบอาการรุนแรง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในสหรัฐฯ ระบุว่าสายพันธุ์เฟลิร์ท มีคุณลักษณะบางประการที่น่ากังวล เช่น การเปลี่ยนแปลงโปรตีนหนามที่ช่วยให้ไวรัสฝังตัวอยู่กับเซลล์ของร่างกาย อันนำไปสู่อาการป่วย และยังกังวลว่าประชากรจำนวนน้อยได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งอาจทำให้มีความเสี่ยงต่อการระบาดรุนแรงขึ้นได้

แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าสายพันธุ์ใหม่เหล่านี้ก่อให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรงกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า แต่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ก็คอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของการแพร่กระจายตามชุมชนและประสิทธิภาพของวัคซีน

อาการของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เฟลิร์ท 

จากรายงานระบุว่ามีความคล้ายคลึงกับอาการของสายพันธุ์โอมิครอน JN.1 ได้แก่ มีไข้ หนาวสั่น ไอ เจ็บคอ คัดจมูกหรือน้ำมูกไหล ปวดหัว ปวดเมื่อยร่างกาย หายใจลำบาก อ่อนเพลีย ตลอดจนอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องเสียเล็กน้อย และอาเจียน รวมถึงอาการที่เรียกว่า “สมองมึนงง” คือ ความรู้สึกไม่ตื่นตัวและตระหนักรู้น้อยลง

ที่มา : Center for Medical Genomics

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 



Source link