ข่าวสารกรุงเทพฯ

จับตาวิสัยทัศน์เพื่อไทย ค่าแรง 600 บาท เงินเดือน ป.ตรี 25,000 บาท


จับตามองวิสัยทัศน์ปี 2570 รัฐบาลเพื่อไทย คนไทยต้องได้ค่าแรงขั้นต่ำไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน เงินเดือนผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ที่ 25,000 บาทขึ้นไป

วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำครั้งที่หนึ่ง) มีการพิจารณาระเบียบวาระเรื่องด่วน เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 มีมติเห็นชอบให้นายเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30

ด้วยคะแนนเห็นชอบ 482 ไม่เห็นชอบ 165 และงดออกเสียง 81 เสียง ประชาชนต่างแชร์นโยบายพลิกฟื้นประเทศของพรรคเพื่อไทย ลงโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต้อง 600 บาทภายในปี  2570 และจบปริญญาตรีได้เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 บาท

ย้อนไปเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 พรรคเพื่อไทยได้แถลงข่าวกรณีการแสดงวิสัยทัศน์รัฐบาลเพื่อไทยในปี 2570 โดยอธิบายถึงประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนผู้จบการศึกษาปริญญาตรี 25,000 บาท ไว้ดังนี้

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องปรับภาพรวมเศรษฐกิจทั้งประเทศให้เติบโตไปพร้อมกัน เพราะในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 300 บาทต่อวัน จนถึงขณะนี้ผ่านมาเกือบ 10 ปี ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นมาหลักสิบบาท

จึงเป็นเหตุผลให้เกิดปัญหา ‘รวยกระจุก จนกระจาย’ คนที่ได้ประโยชน์จากค่าแรงในระดับต่ำ คือ คนกลุ่มเล็กบนยอดสามเหลี่ยมเท่านั้น แต่ฐานรากซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศยังคงเดือดร้อน พรรคเพื่อไทยจึงต้องคิดใหญ่ เพื่อให้เศรษฐกิจทั้งประเทศปรับตัวดีขึ้นไปด้วยกัน ซึ่งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ไม่ใช่เรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณ แต่เป็นเรื่องของการปรับตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นทั้งประเทศ และช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำติดอันดับโลก

ปัญหาการรวยกระจุก จนกระจาย เพราะคนไทยซึ่งเป็นผู้ใช้แรงงาน ยังไม่ได้รับเกียรติ ไม่ได้รับศักดิ์ศรีเพียงพอ เมื่อเทียบกับบางประเทศที่มีค่าแรงขั้นต่ำ 1,800 บาทต่อวัน แต่ภาพรวมทางเศรษฐกิจของทั้งประเทศปรับตัวดีขึ้นทั้งหมด เมื่อแรงงานมีรายได้เพิ่มมากขึ้น จะสามารถจับจ่ายใช้สอยได้มากขึ้น ช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และทำให้ภาพรวมทั้งประเทศปรับตัวดีขึ้นด้วย

“เราต้องเป็นทุนนิยมที่มีหัวใจ ค่าแรงต้องปรับขึ้นเมื่อเศรษฐกิจทั้งประเทศพร้อม วันนี้ค่าแรงยังปรับขึ้นเป็น 600 บาท ไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี แต่เมื่อเศรษฐกิจดีแล้ว จีดีพี จะเติบโตที่ 5% ปีแรกอาจสูงกว่า หรือปีต่อมา อาจลดน้อยลงตามเลขเฉลี่ยแต่ละปี ทั้งหมดคือหัวใจหลัก” นางสาวแพทองธาร กล่าว

ค่าแรง 600 บาท คิดจากอะไร ?

เพื่อไทยชี้แจงว่า 3 องค์ประกอบของค่าแรง คือ การโตของเศรษฐกิจ ผลิตภาพแรงงาน และเงินเฟ้อ ค่าแรงต้องถูกปรับอย่างสม่ำเสมอตามปัจจัยเหล่านี้ แต่ 20 ปีที่ผ่านมาเกาะอยู่เงินเฟ้อและผลิตภาพแรงงาน และโตไม่ทัน GDP เศรษฐขยายตัวเร็วกว่ารายได้ของแรงงาน

หมายถึงรายได้นายจ้างโตเร็วกว่าลูกจ้าง และนี่คือปัญหา คือสิ่งที่ต้องเร่งแก้ไข และตั้งเป้า GDP ต่อจากนี้จะโตปีละ 5% หากไม่ปรับค่าแรงขั้นต่ำ ช่องว่างจะระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างจะยิ่งกว้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น

ค่าแรง 600 บาท กับนายจ้าง ?

นายจ้างกับลูกจ้างคือขาซ้ายและขาขวาของเศรษฐกิจ ต้องเดินไปคู่กัน การปรับค่าแรงขั้นต่ำ ต้องทำคู่ขนานกับต้นทุนนายจ้าง ซึ่งเราจะมีการออกมาตรการสำหรับผู้ประกอบการต่อไป ทั้งในเรื่องของภาษีและสิทธิประโยชน์ รวมทั้งการผลักในเศรษฐกิจขยายตัว จากนโยบายทั้งหมดของพรรคเพื่อไทย และในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรับค่าแรง ผนวกกับการลดภาระผู้ประกอบการผ่านการลดภาษีนิติบุคคล



Source link