ข่าวสารกรุงเทพฯ

แนะรัฐบาลรอบคอบตั้งคนมีปัญหา ไม่มีประสบการณ์ – สำนักข่าวไทย อสมท




กรุงเทพฯ 30 ส.ค. -อดีตโฆษกกรธ. ชี้ “พิชิต” ไม่ขาดคุณสมบัติรมต.เรื่องถูกจำคุก แต่ขัดมาตรฐานจริยธรรม แนะอย่าดันตั้ง จะบั่นทอนเสถียรภาพรัฐบาล ห่วงรมว.กลาโหม ระบุ ประสบการณ์เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าจัดการอำนาจอธิปไตยได้ ภาวะกดดันรอบด้าน หวั่นเกิดปัญหาระหว่างประเทศ

นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ อดีตโฆษกกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) และอาจารย์คณะนิติศาสตร์ นิด้า กล่าวถึงคุณสมบัติของนายพิชิต ชื่นบาน ซึ่งเคยต้องคำพิพากษาฐานละเมิดอำนาจศาลและถูกจำคุก 6 เดือน แต่ถูกวางตัวเป็นรัฐมนตรี ว่า เรื่องนี้อยู่ที่การตีความ ซึ่งตนมองว่าการที่นายพิชิตเคยถูกจำคุกมา ฐานละเมิดอำนาจศาล ซึ่งเป็นโทษที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาคดีตามปกติ ไม่น่าจะเข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (7)  แต่ในมาตรา 160(4)และ(5) น่าจะเข้าข่าย เพราะกรณี ทำขนมหล่นและถูกศาลสั่งว่าละเมิดอำนาจศาล รวมทั้งสภาทนายความยกเลิกใบอนุญาตของนายพิชิต ถือว่าอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมการเป็นทนายความ และมาตรฐานการปฏิบัติตนในศาล ดังนั้น เป็นเรื่องที่เจ้าตัวและผู้เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบ

“ผมว่าไม่ควรครับ เพราะมันเขียนว่าชัดเจนอยู่แล้วว่ามาตรานี้ เป็นมาตราที่เราเขียนเพิ่มขึ้นมาเพื่อที่จะคัดกรองบุคคลที่ใสสะอาดจริง ๆ มีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีที่เราจะพึ่งพาได้ เพราะเขาต้องเข้าไปใช้อำนาจรัฐ เป็นหนึ่งในบรรดา 35 คนที่จะต้องมาบริหารราชการแผ่นดิน ต้องออกความคิดเห็นมีมติร่วมกันต่าง ๆ เราต้องการคนที่มีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถและที่สำคัญคือ มีจิตใจที่ดีไม่มีประวัติด่างพร้อย จึงกำหนดเรื่องนี้ขึ้นมาในมาตรา 160 และถ้าไม่พิจารณาในประเด็นนี้เรื่องมาตรฐานจริยธรรม ผมคิดว่าจะก่อให้เกิดแรงกดดัน ก่อความรู้สึกไม่พอใจ จากบั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาลเพราะความน่าเชื่อถือถือเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเขาไม่ไว้วางใจเสียแล้วมันก็บริหารยาก” นายชาติชาย กล่าว

นายชาติชาย กล่าวถึงโผคณะรัฐมนตรีใหม่ว่า มาจากหลายพรรค บางคนก็เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ แต่หลายคนหน้าใหม่ และที่บอกว่าสามารถเรียนรู้ได้นั้น คิดว่าในหลักการก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ในแง่ของการปฏิบัติ ณ นาทีแรกที่ไปรับตำแหน่งมีเรื่องจะต้องวินิจฉัยพิจารณา แม้จะมีที่ปรึกษาดี แต่การมีประสบการณ์ส่วนตัว มีดุลยพินิจที่ดีมองอย่างรอบด้าน ความรอบรู้สามารถใช้ดุลยพินิจที่ดีและเหมาะสมได้ ถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งบางคนที่ไม่เคยฝึกงานหรือทำงานกับรัฐมนตรีมาก่อน ตนรู้สึกเป็นห่วง เพราะระบบราชการของไทยสลับซับซ้อน และบางทีที่ปรึกษาไม่มีความแม่นยำ ทำให้เกิดความเสียหายได้

นายชาติชาย กล่าวว่า ถ้ามองในประเด็นการเมืองก็ต้องยอมรับว่าเขามาจากการเลือกตั้งจากประชาชน การจะเลือกใครเป็นรัฐมนตรีก็ถือเป็นความรับผิดชอบของพรรคเขาอยู่แล้ว แต่ในฐานะประชาชนก็อดห่วงไม่ได้ แต่ดูจากหน้าตาชื่อชั้นบางคนที่ไปลงในบางตำแหน่งก็อดห่วงไม่ได้ ว่าจะสานต่อสิ่งที่เขาทำมาได้อย่างไร โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม งานด้านการทหารและการต่างประเทศ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันไม่ปกติมีแรงกดดันมากจากหลายฝ่ายหลายประเทศ ครม.ชุดนี้ต้องไม่บริหารงานแบบเดิม ๆ ต้องไม่เน้นเรื่องแบ่งโควต้าพรรค แต่สุดท้ายก็ขอให้กำลังใจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ขอให้ทำงานประสานกัน เชื่อว่าอยู่รอด

“เราสุ่มเสี่ยงมากเรื่องระหว่างประเทศ เพราะบ้านเราไม่ปกติ กดดันเยอะไม่ว่าจะอยู่กับใคร จีนก็มา อินเดียก็มา อเมริกาก็มา ไม่ว่าเรื่องการค้า การทหาร เทคโนโลยี รุมเร้ามาก ไม่ใช่เรื่องดูแค่นโยบายแจก ๆ แถม ๆ ที่หาเสียงกัน ทำให้กระแสคนไปสนใจเรื่องดิจิตัลมันนี่ หรือค่าแรงต่าง ๆ แต่เรื่องเหล่านี้มันไม่มีความหมายเลย หากเราไม่สามารถจัดการอำนาจอธิปไตยของเรา ในการอยู่ร่วมกันกับความตึงเครียดระหว่างประเทศได้” นายชาติชาย   กล่าว.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม








Source link