#แบนเกาหลี ตีตราคนไทยเป็น “ผีน้อย” | Thai PBS News ข่าวไทยพีบีเอส
คนไทยที่ลักลอบเข้าไปทำงานผิดกฎหมายกว่า 1.4 แสนกว่าคนในเกาหลีใต้ ถือ เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ ออกมาตรการเข้มสกัดคนไทยเข้าเมือง ล่าสุดเกาหลีใต้ ออกมาตรการไม่เอาผิดกับผู้ที่ทำงานผิดกฎหมาย หากเข้าโครงการสมัครใจเดินทางกลับประเทศต้นทางภายในสิ้นปีนี้
สื่อเกาหลีใต้ รายงานว่า นายฮัน ดง ฮุน รมว.ยุติธรรมของเกาหลีใต้ ประกาศจัดการปัญหาลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด ตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา และมาตรการดังกล่าวจะดำเนินต่อไปจนถึงเดือน ธ.ค.นี้
เป้าหมายของเกาหลีใต้ คือ การควบคุม จำนวนผู้ลักลอบเข้าเมือง เพื่อมาทำงานอย่างผิดกฎหมายในประเทศ จึงได้ออกมาตรการให้ผู้ทำงานอย่างผิดกฎหมายสมัครใจไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ เพื่อให้ส่งกลับประเทศต้นทาง โดยจะไม่ต้องรับโทษตามกฎหมายเกาหลีใต้และไม่ต้องขึ้นบัญชีดำในการเข้าประเทศเกาหลีใต้แต่อย่างใด
ขณะที่นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ปัจจุบันจำนวนแรงงานไทยที่ไปทำงานผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้ หรือ “ผีน้อย” มีแนวโน้มที่ลดลงแต่ยังมากเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ประมาณ 140,000 คน สาเหตุมาจากมาตรการผลักดันแรงงานผิดกฎหมายกลับไทย ผ่านการคัดกรอง K-ETA หรือ Korea Electronic Travel Authorization ระบบคัดกรองคนเข้าประเทศเกาหลีใต้แบบออนไลน์ และการคัดกรองที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ในสนามบินของเกาหลีใต้มีความเข้มงวดมากขึ้น ประชาชนที่มาจากโซนอีสาน มักถูกสกัดกั้นมากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลการลักลอบเข้าไปเป็น ผีน้อย จำนวนมาก
แต่ขณะนี้กระทรวงแรงงาน ได้ร่วมมือกับเกาหลีใต้ เตรียมส่งแรงงานไปทำงานภาคการเกษตรเกือบ 10,000 อัตรา ในโครงการ VISA E8 แรงงานกลุ่มนี้ ไม่จำเป็นต้องผ่านการทดสอบภาษา ในอนาคต เตรียมหารือกับเกาหลีใต้ ในการขยายจำนวนการส่งแรงงานไทยไปทำงานถูกกฎหมายให้มากขึ้น ในตำแหน่งงานต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบไปทำงานผิดกฎหมาย
ในเมืองต่าง ๆ ของเกาหลีใต้ 12 เมืองจะทำ MOU กับกรมการจัดหางานคาดมีคนไทยไปทำงาน 10,000 คน จากปลายปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า ระยะเวลา 6-8 เดือน รายได้ประมาณ 50,000 บาท ข้อดีไม่ต้องทดสอบภาษาเพื่อเป็นการส่งแรงงานไปทำงาน หวังลดจำนวนผีน้อยลงได้
ส่วนแรงงานไทยถูกกฎหมาย มีจำนวน 18,962 คน เป็นแรงงานจากภาคอีสาน และภาคเหนือมากที่สุด ส่วนใหญ่ไปทำงานภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และงานก่อสร้าง ที่ผ่านมา การส่งแรงงานถูกกฎหมาย มีข้อจำกัดในเรื่องของการต้ทดสอบภาษาเกาหลีผ่านเกณฑ์ ทำให้แรงงานเลือกลักลอบไปทำงาน
สำหรับภูมิลำเนาของแรงงานไทย เข้าไปทำงานเกาหลีใต้มากสุด คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุดรธานี 2,909 คน รองลงมา จ.เชียงราย 1,850 คน จ.นครราชสีมา 1,517 คน จ.หนองบัวลำภู 963 คน และ ขอนแก่น 946 คน
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ระบุว่า หลังโควิด 19 แรงงานไทยผิดกฎหมาย ลักลอบเข้าเกาหลีใต้มากขึ้น โดยเฉพาะคนไทย รัฐบาลเกาหลีใต้ จึงมีมาตรการสกัดเชื่อว่าไม่ใช่การเหยียดชาติ แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีการสกัดเข้าเมืองแบบเหมาเข่งเกาหลีใต้เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เอกชนได้หารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ทำทัวร์มีคุณภาพสูงราคาเกือบ 3 หมื่นบาทขึ้นไปตั้งเป้าเพิ่มนักท่องเที่ยว 1 ล้านคนภายใน 3 ปี เพื่อคัดกรองนักท่องเที่ยว ป้องกันปัญหาคนไทยหนีทัวร์
มันมีผลกระทบมาก่อนหน้านี้ที่มีระบบการคัดกรอง K-ETA เข้ามากระทบกับนักท่องเที่ยวและ โควิด-19 ยิ่งมีระบบคัดกรองก็สร้างปัญหาให้กับคนที่อยากไปเที่ยวมีความเสี่ยงอาจจะไม่ผ่าน แต่ไม่ได้หมายความว่าเกาหลีใต้ไม่แคร์ไทย ข้อเท็จจริงแล้วไทยมีนักท่องเที่ยวปีละ 6-7 แสนคน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งที่คนหลั่งไหลไปประเทศเกาหลีใต้ทั้งรูปแบบของการไปท่องเที่ยวหรือทำงาน ส่วนหนึ่งมาจากกระแสซอฟต์พาวเวอร์ ที่สร้างอิทธิพลไปทั่วโลกย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกาหลีใต้ หลังเผชิญปัญหาหนี้ IMF
รัฐบาลเกาหลีคิดเลยทันทีว่าจะทำอย่างไร คำตอบคือการปรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อรัฐบาลไปเจอโจทย์หิน คือ อุตสาหกรรมกระแสหลัก ภาพยนตร์ เพลง ที่คนนิยมไปทั่วโลก แม้กระทั่งจะผลักดันเรื่องภาคการเกษตร แต่ขนาบข้าง คือ ยักษ์ใหญ่อย่างญี่ปุ่นและจีน ที่สำคัญภูมิประเทศเกาหลีใต้ไม่เอื้อกับการเพาะปลูกด้วย
รัฐบาลตัดสินใจอัดฉีดเงินปีละ 20,000 ล้านบาท เพื่อนำไปสนับสนุนสื่อบันเทิง อย่างค่ายเพลง ตีตลาดทวีปอเมริกา ยุโรป เอเชีย ปรับแนวเพลงให้ตอบโจทย์เช่นแนวฮิปฮอป แรพ มันส์ๆแบบชาติตะวันตก แต่เนื้อเพลงเป็นภาษาเกาหลี สุดท้ายตอบโจทย์ ทำให้มีวงดังระดับโลกอย่างตั้งแต่ “Wonder Girls” เพลง Gangnam Style ของ PSY ไปจนถึงวง BTS หรือ BLACKPINK
นอกจากนี้ ยังนำเงินสนับสนุนทรัพย์สินทางปัญญาให้กลุ่มนักเขียน ผู้กำกับ ให้สอดแทรกวัฒนธรรมอาหาร-ศัลยกรรม เข้าไปในละคร และภาพยนตร์ จนมีเรื่องที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง “แดจังกึม” และล่าสุด Squid Game ที่ทำให้ทุกคนรู้จักกิมจิ และน้ำตาลแผ่น หรือ ดัลโกน่า
อ่านข่าว ไทยเตรียม “VISA E8” หมื่นอัตรา ทำงานเกาหลีไม่ต้องสอบภาษา
โปรโมตเทคโนโลยีสัญชาติเกาหลี อย่างโทรศัพท์ยี่ห้อซัมซุง ให้นักแสดงทุกเรื่องของเกาหลีใช้ แม้กระทั่งในภาพถ่ายแพลตฟอร์มส่วนตัว อย่างอินสตาแกรมเฟซบุ๊ก และเมื่อซีรีส์ หนัง โด่งดัง รัฐบาลโปรโมตการท่องเที่ยว โดยการสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวตามรอยหนังดัง เช่นเมืองปูซาน ทะเลของเกาหลีใต้ จากที่ไม่มีคนรู้จัก กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ดึงนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวทะเลเข้าไปได้มาก
นายแจอิล โจ ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย บอกว่า ได้ถอดบทเรียนจากความสำเร็จของซอฟต์พาวเวอร์เกาหลีใต้ และเล็งเห็นศักยภาพของการท่องเที่ยวไทย รวมถึงซอฟต์พาวเวอร์ที่มีจำนวนมาก นำมาต่อยอดให้โด่งดังไปทั่วโลกได้
เบื้องต้นโดยมีการพูดคุยกับกระทรงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้ามาร่วมมือกันในการผลักดัน เช่น อาหาร การแต่งกาย และสถานที่ท่องเที่ยวจากละครดัง ซึ่งมีทั้งแฟนคลับชาวจีน และประเทศอื่น ๆ ที่ชื่นชอบ เชื่อว่าจะได้เม็ดเงินจากซอฟพาวเวอร์ของไทยเพิ่มขึ้น
เมื่อความนิยม K-content เพิ่มขึ้น แน่นอนว่าสถานที่ใน content ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นด้วย เช่น สถานที่ท่องเที่ยวของไทย ปรากฏในมิวสิควิดีโอของลิซ่า เพลง Lalisa ก็ได้รับความนิยม ผมคิดว่าเป็นปัจจัยทำให้เป็นได้
ส่วนคนไทยที่นิยามตัวเองว่า เป็นติ่งเกาหลี สะท้อนว่า สิ่งที่เกาหลีใต้ทำสำเร็จคือการใช้จิตวิทยาเล่นกับจิตใจคน ยกตัวอย่างบทละครที่ทันสมัย พัฒนาให้ตอบโจทย์สังคม พอคนดูก็จะอิน แม้กระทั่งอาหารก็จะถูกผลิตซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้นักแสดงกินทั้งเรื่องจนทำให้เมนูนี้ทั้งคนในประเทศและต่างชาติ ต่างเสาะหามากิน คนที่มีกำลังมีเวลาตัดสินใจบินไปสัมผัสสถานที่ยอดฮิตในละคร ส่วนคนที่ไม่ได้ไปก็จะหาโอกาสเมื่อศิลปินที่ชื่นชอบ หรือร้านอาหารดั่งมาเปิดในประเทศไทย จะไม่พลาดในการไปกระทบไหล่แม้จะต้องและกับเงินกี่บาทก็ตาม
จิราพร คำภาพันธ์ : บทความ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผีน้อยไทยอันดับ 1 ลักลอบเข้าเกาหลี 1.4 แสนคน
ส่งกลับคนไทย 115 คน หลังเช่าเหมาลำไปเกาหลีใต้
อีกครั้ง! คนไทยไม่ผ่าน ตม.เกาหลีใต้ ถูกส่งกลับทันที 106 คน