09.00 INDEX เป้าหมาย เพื่อไทย มิใช่ก้าวไกล หากอยู่ที่ กลุ่มกุมอำนาจ ‘3 ป.’
09.00 INDEX เป้าหมาย เพื่อไทย มิใช่ก้าวไกล หากอยู่ที่ กลุ่มกุมอำนาจ ‘3 ป.’
การผลักดันคำว่า “รัฐบาลพิเศษ” ขึ้นมาในท่ามกลางความปรารถนาที่จะ “สลายขั้ว” ในทางการเมืองโดยพรรคเพื่อไทย ท้าทายอย่างยิ่งต่อสภาพของ “ปัญหา” อันดำรงอยู่ในปัจจุบัน
ที่สำคัญเป็นอย่างสูงก็คือเป็น “รัฐบาลพิเศษ” ที่มีแนวโน้มจะมีพรรคขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ขนาดเล็กเข้าร่วม
เพียงแต่ในจำนวนนั้นจะไม่มี “พรรคก้าวไกล” อยู่ใน “สมการ”
หากเป็นคำประกาศอันมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ก็มิได้เป็นความผิดปกติ
เมื่อเป็นคำประกาศซึ่งมาจากพรรคเพื่อไทยจึงได้กลายเป็นคำถาม เนื่องจากไม่ว่าการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 พรรค เพื่อไทยก็เป็นพันธมิตรกับพรรคอนาคตใหม่
และเมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566 พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลอันเป็นอวตาร แห่งพรรคอนาคตใหม่ก็ยังเป็นพันธมิตรกัน
กระทั่ง เมื่อการเลือกตั้งปรากฏออกมา 14 ล้านของพรรคก้าวไกลกับ 10 ล้านของพรรคเพื่อไทยก็ลงนามทำ MOU
เพิ่งเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมนั่นแหละ การเมืองก็แปรเปลี่ยน
เป็นการแปรเปลี่ยนอันทำให้เกิดการฉีก MOU ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยที่เคยร่วมลงนามในวันที่ 22 พฤษภาคมทิ้ง
ในอีกด้านหนึ่งก็นำไปสู่การทำ MOU ใหม่กับพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย และกลายเป็นรากฐานใหม่ในทางความคิด
นั่นก็คือ การตัดพรรคก้าวไกลออกไปจากสมการในทางการเมืองอย่างสิ้นเชิง และเริ่มบาทก้าวแรกแห่ง “รัฐบาลพิเศษ” ที่มี เป้าหมายเพื่อ “สลายขั้ว” ในทางการเมือง
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะ “ขอขมา” ต่อพรรคก้าวไกล เพียงมีข้อเสนอเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ ขอให้พรรคก้าวไกลเทคะแนน 150 ให้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล
การเดินทางไปยังพรรคก้าวไกลโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ในวันที่ 9 สิงหาคมจึงแหลมคมยิ่ง
โดยภาพที่ปรากฏเท่ากับพรรคเพื่อไทยต้องการสื่อโดยตรงไปยังพรรคก้าวไกล เป็นการแสดงความจริงใจ เป็นการวอนขอความเข้าใจในการตัดสินใจทางการเมือง
พร้อมกันนั้นก็เป็นการสื่อไปยังกลุ่มกุมอำนาจ “3 ป.”
นั่นก็คือ พรรคเพื่อไทยเรียกร้องความเข้าใจและความเห็นใจ ไม่เพียงแต่ต่อพรรคก้าวไกลที่ถูกปฏิเสธ และต่อกลุ่ม “3 ป.” ที่อยู่ในสมการใหม่แห่ง “รัฐบาลพิเศษ”
ที่เหนือกว่ากลุ่มกุมอำนาจ “3 ป.” เหนือกว่าความรู้สึกของพรรคก้าวไกล ยังมีบทสรุปจาก “สังคม” ตามมาอย่างแน่นอน
